ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ลูกสาวร้องขอความเป็นธรรม พ่อขับรถชนด่าน ถูกเรียกค่าเสียหาย 40,000 บาท จ.นราธิวาส

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีมีคนขับรถหลบด่านตรวจจนพุ่งชนหอสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ จังหวัดนราธิวาส เสียหาย ตามที่เช้านี้ที่หมอชิตนำเสนอไป โดยมีการเรียกค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุเป็นเงิน 40,000 บาท แต่ลูกสาวของผู้ก่อเหตุแย้งว่า ด่านตรวจไม่มีสัญญาณเตือน หรือไฟส่องสว่างแต่อย่างใด ล่าสุด ตำรวจนำหลักฐานมายืนยันว่า ด่านตรวจดังกล่าวมีไฟส่องสว่างเพียงพอ

ย้อนไปดูเหตุการณ์นี้ เหตุเกิดช่วงวันที่ 27 กันยายน เวลา 18.30 น. มีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนหอสูงจุดตรวจความมั่นคง 3 ฝ่าย (บ้านบาตู) ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งรถยนต์สีขาวขับมาแล้วหักหลบป้ายด่านตรวจในระยะกระชั้นชิด คล้ายมองไม่เห็น โดยมีรถอีกคันขับตามมาติด ๆ ซึ่งช่วงแรกมีการระบุว่า ด่านไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้รถไม่สามารถมองเห็นป้ายด่านตรวจได้ และชนหอคอยสังเกตการณ์ของทหารเสียหาย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ 

จากกรณีนี้ นางสาวซูไฮ ลูกสาวนายอับดุลเลาะ คนขับรถยนต์คันก่อเหตุ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ให้พ่อจ่ายชดใช้ค่าซ่อมหอคอยสังเกตการณ์ กล้องวงจรปิด และสายไฟต่าง ๆ รวมเป็นเงิน 40,000 บาท

ซึ่งรถคันที่เกิดเหตุพ่อไปยืมเพื่อนมาขับ และตัวเองต้องชดใช้เงินค่าซ่อมรถอีก 90,000 กว่าบาท และยังมาโดนเรียกเงินส่วนนี้อีก 40,000 บาท ซึ่งเห็นว่าไม่ยุติธรรม เนื่องจากด่านไม่มีไฟแจ้งเตือนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับครอบครัวมีอาชีพหาเช้ากินค่ำ ลูกก็ยังเป็นนักศึกษา จึงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ จึงต้องการให้ผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม

ด้าน คนขับรถเก๋งสีดำที่ขับตามหลังมา ยืนยันว่า ไม่ได้ขับไล่กันมาแน่นอน เพราะมาด้วยกัน และในรถมีเด็กเล็กและคนแก่อยู่ในรถด้วย โดยใช้ความเร็วไม่ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนตัวขับรถผ่านเส้นนี้บ่อยและถนนมืดจริง ๆ ซึ่งที่ด่านไม่ค่อยจะมีไฟ และเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้งกับชาวบ้านในพื้นที่

ด้าน ตำรวจชี้แจงเป็นอีกด้าน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นำภาพด่านวันเกิดเหตุมาให้ผู้สื่อข่าวดู ว่าเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุไม่นาน แสดงให้เห็นว่าด่านมีไฟส่องสว่าง และมีทั้งข้างถนนและจากจุดตรวจก่อนถึงด่าน 200 เมตร และกล้องที่นำมามีหลายมุมมาก โดยยืนยันว่า คนขับรับสารภาพว่า ประมาทจริง และยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย และมีการชำระมาก่อนแล้ว 10,000 บาท

สำหรับจุดตรวจบ้านบาตูที่เกิดเหตุ เป็นจุดตรวจความมั่นคงซึ่งบูรณาการกำลังทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เป็นถนน 4 ช่องการเดินรถ ถนนมีเกาะกลางแบ่งแยกขาเข้าและออก มีไฟประจำด่าน, ไฟข้างทาง และไฟจากบริเวณที่ทำการจุดตรวจ สามารถส่องสว่างและมองเห็นได้ชัดเจน และตั้งแต่ตั้งด่านนี้มายังไม่เคยมีอุบัติเหตุแต่อย่างใด

มีมุมข้อกฎหมายที่น่าสนใจจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมว่า ถ้ากรณีนี้เป็นด่านตำรวจ และด่านไม่ได้เปิดไฟจริง เรื่องนี้มีคำสั่งของตำรวจระบุไว้เป็นระเบียบว่า ด่านตรวจจะต้องมีไฟส่องสว่างชัดเจนไม่น้อยกว่า 150 เมตร และมีป้ายพร้อมข้อความ หยุด หากไม่ปฏิบัติตามเข้าข่ายประพฤติมิชอบ ตามมาตรา 157 ด้วย

และมีอีกมุมกฎหมายน่าสนใจ เพราะทนายความบอกว่า ถ้าด่านตรวจนี้กลายเป็นด่านความมั่นคง และอยู่ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีกฎหมายกำหนดห้ามฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ นั่นหมายความว่า หากเกิดอะไรขึ้นทั้งการบาดเจ็บ การเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark