ยอดเงินบริจาค โตโน่ ภาคิน พุ่งกว่า 63 ล้านบาท

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ยอดเงินบริจาคกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงของ โตโน่ ภาคิน เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล 2 แห่ง ล่าสุดทะลุกว่า 63 ล้านบาทแล้ว ขณะที่เจ้าตัววันนี้พักผ่อนที่โรงแรม ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา 

หลังจากที่กิจกรรม "One Man And The River" หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ ของ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ไปกลับ 2 ประเทศ ไทย-สปป.ลาว รวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ในการระดมเงินไปบริจาคนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม ที่จังหวัดนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน ฝั่ง สปป.ลาว แม้ว่ากิจกรรมจะสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะที่ โตโน่ นักแสดงหนุ่ม และทีมงาน วันนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรเพิ่มเติม ได้พักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ส่วนยอดเงินบริจาค ล่าสุดตอนนี้ ณ เวลา 17.00 น.อยู่ที่ 63,195,754 บาท และยังคงมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคอยู่เรื่อย ๆ โดยโครงนี้จะปิดรับยอดบริจาคในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

ดรามายังไม่จบ กรณี หมอริท เดอะสตาร์ คนสนิทโตโน่ ทวีตข้อความฝากไว้ให้คิด ปัญหาของระบบสาธารณสุขไทย มีข้อความระบุว่า ยินดีกับ โตโน่ ที่ทำภารกิจว่ายน้ำสำเร็จ และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก ขอบคุณน้ำใจคนไทยที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ 

หมอริท กล่าวถึงบทสัมภาษณ์ที่โตโน่เคยบอกว่า "หมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า" ประเด็นนี้ หมอริท อยากบอกในมุมมองของตนว่า ต่อให้ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากมากกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งหมอและพยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม เพราะระบบสุขภาพของไทย คือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า นั่นหมายความว่า คนไทยจะได้รับการรักษาทุกคน ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นรายวัน ทำให้หมอต้องทำงานหนัก และได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม

ปัญหาต่อมา เมื่อหมอทำงานหนัก ทำงานเกินเวลา เกิดภาวะสมองไหล หมอโรงพยาบาลของรัฐ ออกนอกระบบ ทำให้หมอมีน้อยลง แต่ภาระหน้าที่มีมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นเงินบริจาคมีมากแค่ไหนก็ไม่ทำให้หมอเหนื่อยน้อยลงได้

ส่วนประเด็นที่บอกว่า หมอ พยาบาล ทำงานเสี่ยง รู้แบบนี้ เหตุใดผู้มีอำนาจถึงปล่อยให้ หมอ พยาบาล ทำงานภายใต้ความเสี่ยง ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นปัญหา และจัดการอย่างเร่งด่วน

เรื่องนี้ ผู้สื่อข่าว สอบถามไปยังแหล่งข่าวในกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้ เป็นประเด็นดรามายืดยาว เพราะภารกิจของโตโน่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนที่ หมอริท กล่าวถึง ปัญหาระบบสาธารณสุขไทย ยอมรับว่า ทุกวันนี้ หมอ พยาบาล ทำงานเหนื่อยจริง แต่ก็เป็นความรับผิดชอบในวิชาชีพ ซึ่งการทำงาน ภายใต้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า จึงต้องดูแลทุกชีวิตคนไทย โดยไม่สามารถรู้จำนวนผู้ป่วยล่วงหน้าได้เลย ส่วนการทำงาน หมอ พยาบาล จะมีตารางงานแบ่งกันชัดเจน ไม่ต่างจากวิชาชีพอื่น ซึ่งการแก้ปัญหาตามที่ หมอริท พูดมา ต้องใช้เวลาหารือเพื่อสะสางปัญหาระบบสาธารณสุขไทย จึงเป็นเรื่องค่อนข้างยาก หากจะแก้ในทันที