ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ครูยุ่น เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายเด็ก จ.สมุทรสงคราม

เช้านี้ที่หมอชิต - ตามกันต่อกับประเด็นร้อนที่คาใจผู้คนในสังคมกรณีมีการทำร้ายเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ซึ่งเมื่อวานนี้ "ครูยุ่น" พร้อมกับ นายแก้วสรร และทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กรณีมีภาพทำร้ายเด็กออกมา หลังจากนั้นได้ออกมาแถลงถอดใจ หลังโดนกระแสสังคมโจมตีเป็นคนทำร้ายเด็ก

กรณีโลกโซเชียลเสนอคลิปภาพเด็กในมูลนิธิแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ถูกตีเรียงแถว จนต้องร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิเส้นด้าย ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ จนตำรวจได้ออกหมายเรียก ครูยุ่น เลขามูลนิธิคุ้มครองเด็กมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหาใหญ่ คือทำร้ายร่างกาย และใช้แรงงานเด็ก

โดยช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ครูยุ่น พร้อมด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งใช้เวลาในการสอบสวนกว่า 6 ชั่วโมง จนในที่สุดตำรวจก็ให้ประกันตัวโดยไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ เนื่องจากไม่พบพฤติกรรมหลบหนี

จากนั้น ครูยุ่น ได้แถลงเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าการลงโทษที่เกิดขึ้นในคลิปเป็นเรื่องจริง แต่มีเหตุผลที่ต้องทำลงไปเพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตเนื่องจากเด็กฝ่าฝืนกระโดดเล่นน้ำ และยังพาน้องที่ว่ายน้ำไม่เป็นลงไปด้วย ส่วนในเรื่องของการใช้แรงงานเด็กนั้น ครูยุ่น ยืนยันว่า ไม่เคยบังคับเด็กให้ไปทำงาน หากแต่เด็กอาสาเข้าไปช่วยงานเอง โดยบางครั้งจะให้เงินเป็นค่าตอบแทน หรือ ที่เรียกว่าค่าขนม

ส่วนแนวทางจากนี้ไป ครูยุ่น บอกว่า ยังตอบอะไรมากไม่ได้ แต่หากจะปิดสถานสงเคราะห์แห่งนี้ก็คงทำได้เท่านี้ ส่วนมูลนิธิก็เป็นเรื่องของมูลนิธิที่ต้องดำเนินการ ขณะที่เด็ก ๆ ในบ้านอีกกว่า 20 คนที่เหลือ หากประสงค์ที่จะแยกย้ายไปหาบ้านพักใหม่ที่เป็นของรัฐก็สามารถทำได้ โดยจะไม่ขัดขวางแต่หากใครอยากสมัครใจที่จะอยู่ต่อก็ยังสามารถที่จะอยู่ได้ต่อไป

ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิคุ้มครองเด็ก บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการให้ข้อมูลในเชิงลบของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งโจมตีชัดเจนเรื่องของการทำร้ายเด็ก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วจากการสอบถาม ครูยุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการทำโทษและตามหลัก แล้วผู้ปกครองบ้านก็มีสิทธิ์ที่จะลงโทษเด็กในปกครองได้ เพียงแต่ว่า ครูยุ่น อาจจะใช้วิธีแบบของตัวเอง ทั้งคำพูดคำจา และการแสดงออก และหากมองว่า ครูยุ่น ผิด ก็แค่ให้ ครูยุ่น เลิกปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่การนำเจ้าหน้าที่ไปนำตัวเด็กออกมาจากมูลนิธิ ซึ่งทำให้เกิดความแตกตื่น และโกลาหลในกลุ่มผู้ปกครอง

ทั้งนี้ตลอด ทั้งวันจะพบว่ามีกลุ่มผู้ปกครองแวะเวียนไปดูบุตรหลานของตัวเองที่มูลนิธิ และหลายคนก็ตามหาบุตรหลานตัวเองไม่เจอ โดยไม่ทราบว่าบุตรหลานถูกนำตัวไปไว้ที่ไหน

ทีมข่าวของเราได้สอบถามไปที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของจังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า เด็ก ๆ ที่ถูกนำออกมาจากมูลนิธิ ได้ถูกนำไปไว้ที่บ้านพักเด็ก และดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพจิต รวมทั้งนำไปตรวจร่างกาย เพื่อประกอบสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ขณะเดียวกันช่วงเย็นวานนี้ (3 พ.ย.) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรอัมพวา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการทำสำนวนคดี พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทำสำนวนด้วยความรัดกุม โดยเฉพาะประเด็นที่ตกเป็นข้อสงสัยของสังคม พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยข้อมูล ผลการตรวจร่างกายของเด็กออกแล้ว ไม่พบสารเสพติด หรือ บาดแผลตามร่างกายที่ทิ้งรอยการถูกทำร้าย แต่อย่างไรก็ตามได้มีการตั้งข้อหาแก่ ครูยุ่น ไปแล้ว 2 ข้อหา โดยสิ่งที่จะต้องเร่งทำต่อจากนี้ไป คือ การนำเด็กทั้งหมดออกจากมูลนิธิดังกล่าว เพราะขณะนี้ถือว่ามูลนิธิฯ ไม่ใช้พื้นที่ปลอดภัย แต่หลังการสอบสวน และดำเนินคดีเสร็จสิ้นแล้ว หากเด็กจะกลับไปก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ ในข้อหาการทำร้ายร่างกายนั้น ถือว่าเป็นการตั้งข้อหาตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ตามสื่อ ส่วนข้อหาการจ้างแรงงานเด็กนั้น ยังต้องรอการสอบสวนว่าเจ้าของรีสอร์ต มีความเชื่อมโยงอย่างไรกับครูยุ่น เพราะการให้การของ ครูยุ่น อยู่ในฐานะของผู้ถูกกล่าวหาจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่เนื้อหาที่สำคัญอยู่ที่การให้การของผู้เสียหายดังนั้นจึงต้องสอบสวนเด็กทั้งหมด โดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งเด็กทุกคนต้องได้รับการดูแลและเยียวยาทั้งสุขภาพ กายและสุขภาพจิตให้พร้อมที่สุดก่อนที่จะให้การ ไม่ใช่การให้การในภาวะที่มีความกดดัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark