หัวอกแม่ทนไม่ได้ ลูกนั่งเล่นอยู่ดี ๆ ถูกทำร้ายบาดเจ็บ ดวงตาเกือบบอด จ.บุรีรัมย์

เช้านี้ที่หมอชิต - หัวอกคนเป็นแม่ ไม่ว่าใครก็ทนรับไม่ได้ ลูกนั่งเล่นอยู่ดี ๆ ถูกวัยรุ่นที่ไม่รู้จักสนิทสนมกันทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จนดวงตาเกือบบอด หลังเกิดเหตุพาลูกเข้าแจ้งความแล้วเพื่อให้ตำรวจตามล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินดคี แต่ผ่านมาร่วมเดือน ยังเคลียร์คดีไม่จบโดยผู้ปกครองฝ่ายผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย

ผู้ร้องทุกข์คือ นางละมัย บุญที อายุ 46 ปี ชาวบ้านอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงค่ำวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเยาวชนชายอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกับลูกชายของเธอ ผ่านทางเฟซบุ๊กได้ประมาณ 3 เดือน ส่งข้อความมาหาชวนลูกชาย ออกไปเล่นที่สนามกีฬาหน้าเทศบาลตำบลพุทไธสง ลูกชายจึงออกไปตามคำชวน แต่ก่อนไปถึงจุดนัดพบลูกชายได้แวะรับเพื่อนรุ่นพี่เป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี ไปด้วย เมื่อไปอยู่รวมกลุ่มกัน ก็มีลูกชายของเธอ และเพื่อนรุ่นพี่ 3 คน

โดยเยาวชนชายอายุ 16 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ซึ่งรู้จักกับ นายเดี่ยว รุ่นพี่ในกลุ่ม แต่ตนไม่รู้จักขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเทียบด้านข้างรถตนเอง ซึ่งตอนนั้งตนเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ โดยเห็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ชื่อนายเดี่ยว ยกมือไหว้แล้วถามว่านายสุดเขต ว่า "จะกลับแล้วเหรอพี่" แต่นายสุดเขต ไม่ได้ตอบอะไรกลับลงจากรถเดินปรี่มาหาตน พร้อมกับใช้ก้อนหินที่ถือมาทุบเข้าเบ้าตาข้างซ้ายอย่างแรง จนเลือดไหลอาบใบหน้า ตอนนั้นตนตกใจมากรีบลุกหนีออกจากที่เกิดเหตุทันทีเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ที่มาออกกำลังกายอยู่แถวนั้น จากนั้นโทรศัพท์ไปบอกให้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่าจอประสาทตาฉีกขาด และที่ดวงตาดำ รวมทั้งหนังตามีแผลฉีกขาดต้องเย็บ 5 เข็ม ส่งผลต่อการมองเห็น

นางละมัย บอกว่าหลังเข้าแจ้งความ ตำรวจเรียกเธอและผู้ปกครองของคู่กรณีไปเจรจากัน โดยเธอเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 100,000 บาท เพราะตั้งแต่ลูกบาดเจ็บ ทำให้เธอต้องหยุดขายของ ขาดรายได้ ต้องพาลูกเทียวไปรักษาดวงตาทั้งที่โรงพยาบาลในจังหวัดบุรีรัมย์ สลับกับเดินทางไปพบรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ รวมเกือบ 10 ครั้ง หมดเงินไปแล้วหลายหมื่นบาท ที่ผ่านมาต้องยืมเงินญาติมาเป็นค่าใช้จ่าย แต่ฝ่ายผู้ปกครองคู่กรณี อ้างว่าจะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ก็ต่อเมื่อ มีใบรับรองแพทย์ที่ระบุค่ารักษาแน่ชัด เบื้องต้นจึงจ่ายเงินค่าเดินทางให้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น ทำให้เธอต้องออกมาร้องทุกข์หวังให้ตำรวจช่วยเร่งรัดคดีให้ฝ่ายคู่กรณีออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ก่อไว้

ด้านผู้กำกับการ สภ.พุทไธสง เผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหาย และคู่กรณี พยานแวดล้อมครบทุกปากแล้ว และแจ้งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้วในข้อกล่าวหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ" ยังเหลือรอเอกสารใบรับรองผลการักษาจากแพทย์โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการต่อไป ซึ่งหากแพทย์ระบุว่าบาดเจ็บสาหัสจะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม