ฉุน เพื่อนบ้านแอบเข้ามาหาปลา คว้ามีดฟันนิ้วเกือบขาด จ.ตรัง
เช้านี้ที่หมอชิต - งานนี้มีฉุนเลือดขึ้นหน้า ชายอายุ 61 ปี ไม่พอใจเพื่อนบ้าน ชอบแอบเข้ามาขโมยปลาในสวนนานกว่า 19 ปีแล้ว เตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เลยคว้ามีดพร้าฟันเพื่อนบ้านเลือดอาบ
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 20.40 น.เกิดเหตุชายอายุ 61 ปี อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบางด้วน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ใช้อาวุธมีด ฟันเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นหญิงอายุ 64 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส นิ้วหัวแม่มือด้านซ้ายเกือบขาด มีแผลที่ศีรษะ 2 จุด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในตำบลบางด้วน
หญิงอายุ 39 ปี ลูกสาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงหลานตะโกน เลยเปิดประตูบ้านไปดู ก็เห็นแม่เดินเลือดไหลอาบเต็มตัว และเห็นผู้ก่อเหตุได้ถือมีดพร้าเดินตามมาด้วยที่หน้าบ้าน ซึ่งตอนนั้นเธอทราบแค่ว่า แม่ไปหาปลาและตักหอยในร่องน้ำหลังบ้าน ส่วนที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่าทั้งคู่มีปัญหากัน
ต่อมาเมื่อวานนี้ 23 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่า บ้านของผู้บาดเจ็บอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ และพบชายอายุ 61 ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าตัวได้นำอาวุธมีดพร้า ที่ใช้ก่อเหตุมาให้ผู้สื่อข่าวดู ก่อนจะพาไปดูจุดเกิดเหตุ
ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติตนเองจะไม่ค่อยนอนที่สวน แต่ช่วงหลังปลาในบ่อหายบ่อย จึงตัดสินใจมานอนเฝ้าที่ขนำ ทำให้พบว่า มีคนสวมไฟฉายคาดที่ศีรษะยืนอยู่ ตนเองจึงถือมีดพร้าและเดินไปดูว่าเป็นใคร ก่อนจะพบหญิงอายุ 64 ปี ยืนตกปลาในบ่อของตนเอง จึงเริ่มมีปากเสียงกัน ด้วยความโมโหตนเองจึงใช้ด้ามมีดเคาะไปที่ศีรษะหญิงอายุ 64 ปี 3 ครั้ง เพื่อตักเตือน ก่อนจะแยกย้ายกันไป ส่วนที่หาว่าตนเองข่มขู่นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ผู้ก่อเหตุ เล่าต่ออีกว่า ที่ผ่านมาผู้บาดเจ็บเข้าไปขโมยปลาและหอยที่เลี้ยงไว้ในบ่อของตนเองหลายครั้งแล้ว ทำเช่นนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ตนเองก็ตักเตือนมาตลอด ว่าห้ามเข้ามาขโมยปลาอีก และได้มีการติดป้ายประกาศเตือน แต่ผู้บาดเจ็บก็ไม่ฟัง
ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ระแวกนั้น เปิดเผยว่า ทั้งคู่มีปัญหากันบ่อยครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตนเองและครอบครัวหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุชอบดื่มสุราจนมึนเมา เกรงว่าจะทำร้ายผู้อื่นอีก
ขณะที่ ตำรวจ สภ.บ้านหนองเอื้อง ระบุ ได้ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุไปหนึ่งครั้ง แต่ยังคงต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม ส่วนเรื่องที่มีการบุกรุกสถานที่ ก็ต้องว่ากันไป หากเจ้าของสวนมีการแจ้งความดำเนินคดี ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
