รวบแม่เล้าหลอกเด็กขายบริการทางเพศ [เจาะเกาะติด]

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจบุกจับแม่เล้าชาวเมียนมา หลอกหญิงสาวเพื่อนร่วมชาติ มาเปิดขายบริการผ่านโซเชียล หักหัวคิวเหยื่อครั้งละ 200 บาท ยอมรับทำมาแล้วนานนับปี ไม่ต้องมีหน้าร้าน ติดตามจากรายงานคุณมะลิ แซ่ฉิ่น

ที่เห็นอยู่นี้ เป็นข้อความสนทนาของ นางนานเกี๋ยงคำ แม่เล้าชาวเมียนมา กับกลุ่มลูกค้า ที่กำลังเสนอขายบริการทางเพศบนโลกโซเชียล ที่มูลนิธิโอยูอาร์ตรวจพบ ก่อนที่จะประสานตำรวจ นำกำลังบุกเข้าไปจับกุม ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ที่ห้องเช่าแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียง นางนานเกี๋ยงคำ เท่านั้น แต่ยังมีหญิงสาวอายุตั้งแต่ 19-21 ปี อีก 5 คน พักรวมอยู่ในห้อง ซึ่งทุกคนยอมรับว่า ถูกติดต่อให้มาขายบริการทางเพศแก่ผู้ชายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคิดค่าบริการครั้งละ 1,000 บาท แต่จะถูก นางนานเกี๋ยงคำ หักหัวคิวครั้งละ 200 บาท

การเฝ้าระวังและจับกุมอย่างหนักหน่วง ทำให้สถิติคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2564 โดยเฉพาะในเพศหญิง เกือบแตะ 200 คน และ 180 คน อายุต่ำกว่า 14 ปี ที่น่าห่วงกว่านั้น คือ กลุ่มที่อายุต่ำกว่า 8 ปี มีมากถึง 30 คน นี่ทำให้ตัวเลขรวม ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ของศูนย์ไทยแคต ในคดีล่วงละเมิดทางเพศ สูงถึง 344 คน

ตัวเลขที่สูงขึ้น กลุ่มเอ็นจีโอกลับมองว่า เป็นผลดี เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐ ทั้งยอมรับด้วยว่า เทคโนโลยียิ่งล้ำสมัย ปัญหาการล่วงละเมิดในเด็กโดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ไม่จำเพาะเด็กยากจน แม้แต่ลูกคนรวยหน้าตาดี ก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อสูง

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า การไล่จับกุมเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากจะให้ได้ผลอย่างจริงจัง ต้องบูรณาการทุกฝ่าย โดยเฉพาะการเข้าถึงเทคโนโลยี และการให้ความรู้ เพราะปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากความยากจนเพียงอย่างเดียว แต่การอยากรู้อยากลอง ก็นำพาให้เด็กตกเป็นเหยื่อมากขึ้นเช่นกัน

ไม่เฉพาะการเสนอขายบริการทางเพศเท่านั้น ที่กำลังได้รับความนิยม การแสดงสดโชว์ลามก ก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ตำรวจต้องเร่งเสริมเขี้ยวเล็บ เพื่อตามให้ทันสังคมยุค 5G