ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : ความท้าทายปฏิรูปรถเมล์ไทย
ประเด็นเด็ด 7 สี - ความพยายามปฏิรูปรถเมล์ไทยดำเนินมายังต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดมีการเปิดช่องทางให้ประชาชนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเลขเส้นทางรถเมล์ ติดตามเรื่องนี้ใน ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ
ถือเป็นความท้าทาย สำหรับการดำเนินแผนปฏิรูปรถเมล์ไทย นั่นก็คือการกำหนดระบบเลขสายรถ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้โดยสารเคยชินในการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง ก่อนหน้านี้เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลขสายรถเมล์มาแล้ว แต่หลายคนก็ยังมองว่ายังไม่ตอบโจทย์ เพราะไม่สามารถให้ข้อมูล การเดินรถได้อย่างเหมาะสม
ปัญหารถเมล์ไทยสะสมเป็นแผนเรื้อรังมานาน แม้ผู้ประกอบการจะพยายามปรับปรุงคุณภาพ และยกระดับการให้บริการให้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ กระทั่งทำให้จำนวนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำ หรือ รถเมล์ เริ่มทยอยปรับลดลง ประชาชนที่เคยใช้บริการหันไปเดินทางรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือรถส่วนบุคคล การพัฒนาคุณภาพบริการจึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยอาศัยหลักการสร้างแนวทางการกำกับดูแลและบริหารจัดการที่มีแบบแผนชัดเจน ผ่านการออกแบบกระบวนการให้ใบอนุญาตประกอบการเดินรถที่มีประสิทธิภาพ สามารถติดตามและประเมินผลจนนำไปสู่การให้บริการที่มีคุณภาพได้ อีกทั้งยังมีการปฏิรูปโครงข่ายการเดินรถโดยสารประจำทางจำนวน 269 เส้นทาง ที่ลดความทับซ้อน เพิ่มความครอบคลุม และส่งเสริมการเชื่อมต่อกับการเดินทางรูปแบบอื่น
ความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ คือ เลขสายรถเมล์ ที่ต้องมีระบบและสอดคล้องกับเส้นทางเดินรถใหม่ ที่ยังคงใช้เส้นทางเดิมเป็นเส้นทางหลัก แต่จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะบางจุดเชื่อมต่อการเดินทาง การออกแบบ หรือกำหนดตัวเลขสายรถเมล์ นอกจากจะเป็นการกำหนดระบบการเดินรถ ยังต้องให้ความสำคัญกับบริบทของผู้ใช้บริการด้วย เป็นที่มาให้กรมการขนส่งทางบก หน่วยงานกำกับดูแล ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ ด้วยการเชิญชวนประชาชนร่วมโหวตว่าต้องการใช้เลขประจำสายรถเมล์ใหม่ หรือเลขสายรถเมล์ที่เคยใช้อยู่เดิม โดยเปิดช่องทางโหวตผ่านทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ ของกรมการขนส่งทางบก
โดยการเปิดโหวตเลขสายรถเมล์มี 2 ทางเลือก คือใช้เลขสายใหม่ทั้งหมดตามแผนปฏิรูป หรือใช้เลขสายเดิมในเส้นทางเดิม ส่วนสายใหม่ที่บอกว่ามีการปรับเส้นทางเดินรถ จะใช้เลข 3 หลัก ทั้งหมดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการจริง
คุณผู้ชมที่สนใจสามารถร่วมโหวตผ่านช่องทางดังกล่าวได้ระหว่างวันที่ 6-15 ธันวาคม 2565 เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถเชื่อมโยงระบบรถโดยสารประจำทางกับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ ในอนาคต