อุทาหรณ์ หนุ่มฝังมุกอวัยวะเพศติดเชื้อ
เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้เสียหายหนุ่มพนักงานโรงงาน ที่นึกสนุกใช้บริการหมอกระเป๋า ฝังมุกเสริมขนาดอวัยวะเพศชาย จนเกิดการติดเชื้อรุนแรง อวัยวะเพศใช้การไม่ได้ ยังต้องรักษาตัวเองอีกนาน แต่ยังมีโอกาสหายกลับมาเป็นปกติได้ ขณะที่แพทย์เตือนอย่าเลือกใช้บริการหมอกระเป๋า เพราะเสี่ยงเป็นอันตราย
โดยจุดเริ่มต้นของคดีนี้มาจากที่ ชายหนุ่ม พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ไปเจอเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อเพจว่า "รับฝังมุกซิลิโคน" แล้วไปเห็นโพรโมชันเมื่อเดือนเมษายน ลดราคาพิเศษเหลือเพียง 15,000 บาท ด้วยความนึกสนุก จึงตัดสินใจติดต่อไปขอใช้บริการ จากนั้นหมอกระเป๋า ผู้ก่อเหตุก็นัดไปทำการผ่าตัดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่หลังจากผ่าตัดเพื่อฝังมุกไปได้เพียง 3 วัน ปรากฎว่า แผลไม่แห้ง เริ่มมีอาการบวมคล้ายแผลติดเชื้อ หมอกระเป๋า จึงนัดให้ไปทำแผลใหม่ก็ไม่ดีขึ้น กลับได้ผลตรงข้ามอาการหนักกว่าเดิม ทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ต้องทรมานกับการรักษาอาการบาดเจ็บ จนเครียดหนักป่วยเป็นซึมเศร้า เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ
หลังนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ก็มีการประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนนำหมายศาลไปจับกุม นายอภิชาต อายุ 41 ปี หมอกระเป๋าที่ให้บริการผู้เสียหายได้ ที่พร้อมของกลางอุปกรณ์ที่ให้บริการฝังมุก และเสริมขนาดอวัยวะเพศชาย ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
จากการสอบสวน นายอภิชาติ รับว่า ตนเองไม่ใช่แพทย์ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อาศัยว่าเคยทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิก ใช้การเรียนรู้แบบครูพักลักจำแล้วนำมาประยุกต์กับความรู้ที่ศึกษาเอง ก่อนจะไปเปิดเพจเฟซบุ๊กให้บริการ โดยจะนัดหมายลูกค้าไปทำการผ่าตัด ตามโรงแรมม่านรูด หรือ ห้องพักรายวัน คิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 15,000-20,000 บาท ซึ่งทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งนานกว่า 5 ปี
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ฝากเตือนให้ประชาชนศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ก่อนการตัดสินใจเสริมความงาม และเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยให้สังเกตจากหลักฐานต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการฯ ใบอนุญาตสถานพยาบาลฯ ที่สำคัญแพทย์ที่ให้บริการต้องเป็นคนเดียวกับในรูปถ่าย ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้ในคลินิก ถ้าสงสัยหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สบส. 1426 หรือ เฟซบุ๊ก ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส.กระทรวงสาธารณสุข
