ความหวังประเทศไทย ปี 2566

ข่าวภาคค่ำ - ประเทศไทยได้เดินทางฝ่าวิกฤต ฟันฝ่าอุปสรรค ขวากหนามมากมาย ในปี 2565 ไปสู่ความหวังของประเทศไทย ปี 2566 ยังมีเรื่องราวใด ที่เป็นฟ้าหลังฝน สร้างความหวัง กำลังใจ พร้อมก้าวสู่ปีใหม่ 2566 ไปด้วยกัน

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย ต้องเผชิญมรสุมโควิด-19 เดินทางฝ่าวิกฤต ผ่านอุปสรรคขวากหนาม ไวรัสโคโรนา 2019 มาถึงช่วงต้นปี 2565 สายพันธุ์โอมิครอน ได้สร้างปรากฏการณ์ มีประชาชนติดเชื้อเป็นล้านคนในเวลาอันรวดเร็ว และเสียชีวิตสะสมรวม 3 ปี กว่า 33,000 คน ไม่มีวัคซีนเทพ ที่ไหนมาหยุดยั้งได้ แต่สถานการณ์ระบาดได้คลี่คลาย กลายเป็นโรคตามฤดูกาล 

ไทยประกาศจุดเปลี่ยน มูฟออนโควิด-19 และเดินหน้าเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ท่ามกลางความหวัง ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติมากที่สุด และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ทะลุเป้า 10 ล้านคน เป็นธงนำที่จะทำให้บรรยากาศ เศรษฐกิจการท่องเที่ยว กลับมาคึกคัก และฟื้นตัวในปี 2566 

ความหวังหนึ่ง ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ดึงดัน ออกประกาศให้กัญชาทุกส่วน กิ่งก้าน ช่อ ดอก รากใบ ถอดพ้นจากบัญชียาเสพติด ก็สร้างความหวังการใช้กัญชา เป็นยารักษาโรค เปิดเสรีกัญชาให้ทุกบ้านปลูกได้ กลายเป็นสมุนไพรในครัวเรือน ไปสู่พืชเศรษฐกิจ

ยังไม่ทันไร การเปิดเสรี กัญชาถูกนำไปใช้ในทางผิด มอมเมาเด็กและเยาวชน ทำความหวังพังทลาย ร่างกฏหมายกัญชา กัญชง ถูกเกมการเมืองเตะตัดขา ล้มคว่ำกลางสภา "งานนี้ ไม่หมู ไม่ง่าย นะหนู" 

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในปี 2565 ครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่คนกรุงเทพมหานคร ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันถล่มทลาย เทใจให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะคะแนนเลือกตั้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ สร้างสถิติใหม่ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กวาดไปกว่า 1,386,215 คะแนน นับแต่ที่เคยมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.มา

เส้นทางของบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี สู่คะแนนทะลุล้าน ได้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 อย่างสง่างาม ท่ามกลางความหวังของคนกรุงเทพฯ ที่อยากได้ผู้ว่าฯ ที่ดีที่สุด เข้ามาแก้ไขปัญหาที่ค้างคาให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ และพัฒนาสู่การเป็นเมืองหลวงชั้นนำระดับโลก ไม่เท่านั้น "ชัชชาติ" ยังกลายเป็นไอดอลที่แบกความหวังของคนไทยเกือบทั้งประเทศ ที่หวังจะมีผู้นำแบบนี้ิในทุกพื้นที่ 

ปม 8 ปี นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการเมืองร้อนระอุ ตั้งแต่ต้นปี สส. ตีปี๊บ เปิดเกมอภิปราย รุกไล่ ล้มรัฐบาล จี้ซ้ำยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด กดดัน หวังให้ ยุบสภา หรือ ลาออก พ้นเก้าอี้ เปิดทางเลือกตั้งใหม่ ล้างไพ่รัฐบาล

สุดท้าย พลเอกประยุทธ์ แค่สะดุด ถูกศาลฯ สั่งหยุดพักปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว 38 วัน ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก แถมยังชี้ชัดให้ไปต่ออีก 2 ปี ได้เป็นประธานเอเปกสมใจ

ดับฝันพรรคเล็ก พรรคเกิดใหม่ ที่หวังจะได้ สส. และพ่วงได้โดดร่วมรัฐบาล จากสูตรคำนวณ สส.ปาร์ตี้ลิสหาร 500 เหมือนคราวก่อน แต่ผิดคาด พรรคใหญ่พลิกเกมในสภาฯ จบตัดที่สูตรหาร 100 ได้เปรียบเห็น ๆ ทำพรรคเล็กวิ่งวุ่น ฝุ่นตลบ แห่ย้าย ควบรวม หนีตายทางการเมืองจ้าละหวั่น

การเลือกตั้งครั้งหน้า จึงคือ “ความหวัง” สำคัญ ที่อาจเป็น "จุดเปลี่ยน" หรือ "ไปต่อ" ของพลเอกประยุทธ์ บนความหวังของประชาชน ที่อยากเห็นประเทศ หลุดพ้นจากวิกฤติที่ยืดเยื้อ ทั้งเศรษฐกิจ โรคระบาด สังคมแห่งความขัดแย้ง และประชาธิปไตยที่ยังไม่เต็มใบ