ผลตรวจเลือดและปัสสาวะ คดีขับรถเบนท์ลีย์ พบสารเสพติด

ข่าวภาคค่ำ - ผลการตรวจเลือดผู้ต้องหาขับรถเบนท์ลีย์ เฉี่ยวชนรถ 3 คัน บนทางด่วนออกมาแล้ว เบื้องต้นพบมีสารเสพติดหลายประเภทในร่างกาย ตำรวจเตรียมเรียกตัวรับทราบข้อหาเพิ่ม

พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผลการตรวจเลือดอย่างละเอียดของ นายสุทัศน์ ผู้ต้องหาคดีขับรถยี่ห้อเบนท์ลีย์ เฉี่ยวชนรถยนต์ 3 คัน บนทางด่วนเมื่อเที่ยงคืนครึ่งวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ถูกส่งมาถึงพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 1 แล้ว โดยผลการตรวจจากโรงพยาบาลตำรวจ พบว่า นอกจากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ยังมีสารเสพติดชนิดอื่น ๆ ในร่างกายด้วย เบื้องต้นตำรวจเตรียมเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา "เสพยาเสพติดขณะขับรถ" และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับทำการยืนยันสารเสพติดประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม

ส่วนเรื่องการสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำคดีนี้ของตำรวจ สน.ทางด่วน 1 ที่สั่งให้รายงานผลความคืบหน้าภายใน 15 วัน พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า กำลังรอดูรายงานผลคดีเช่นกัน หากพบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็จะต้องถูกลงโทษ และหัวหน้าสถานีในฐานะผู้บังคับบัญชาเอง ก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ยืนยันว่าทุกอย่างทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน และจะมีการรายงานผลการสอบสวนต่อสื่อมวลชนด้วย เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

ขณะที่ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ระบุว่า ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและพิจารณา เรื่องที่มีคนอ้างตัวเป็นอดีตอธิบดี DSI และทราบว่าได้เบาะแสภาพรถยนต์ของคนที่อ้างตัวมาแล้ว หลังจากนี้หากผลการตรวจสอบพบว่า บุคคลนั้นไม่เคยมีประวัติทำงานที่ DSI หรือเคยเป็นอดีตข้าราชการของ DSI จริง จะพิจารณาดำเนินการเอาผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น