ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เด็กนักเรียนวัย 14 ปี ถูกรุ่นพี่ลวงไปให้เพื่อนข่มขืน

เช้านี้ที่หมอชิต - นักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี ถูกนักเรียนหญิงรุ่นพี่ ม.3 ล่อลวงไปในป่าหลังโรงเรียน แล้วให้เด็กชายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน 5 คน รุมข่มขืน และถ่ายคลิปแชร์ในโซเชียลมีเดีย ส่วนแม่คิดว่าเรื่องนี้ลูกสาวไม่ได้รับความธรรม ทั้งที่ถูกกระทำ แต่ต้องถูกให้ย้ายออกจากโรงเรียน

เด็กนักเรียนวัย 14 ปี ถูกรุ่นพี่ลวงไปให้เพื่อนข่มขืน
นี่เป็นเสียงคำตอบของคนในครอบครัวของนักเรียนหญิงชั้น ม.2 หรือ น้องบี (นามสมมุติ) ที่ถูกเพื่อนรุ่นพี่ล่อลวงไปรุมข่มขืน โดยก่อเหตุช่วงกลางวัน ในป่าหลังโรงเรียนในพื้นที่แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งหลังจาก น้องบี ถูกกระทำจนทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ ยังถูกให้ย้ายออกจากโรงเรียน ครอบครัวของน้องบี จึงไปขอความช่วยเหลือที่ทำการมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยแม่ไปทั้งน้ำตา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว ซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาพเครียดหนัก เก็บตัวคนเดียว ไม่กล้าออกไปไหน เพราะอับอายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา น้องบี ไปโรงเรียนตามปกติ ช่วงพักกลางวัน นางสาวซี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี รุ่นพี่ ม.3 ได้ชักชวนให้ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอาไปให้กลุ่มเพื่อนนักเรียนชาย ม.2 จำนวน 5 คน ที่ไม่เข้าชั้นเรียน และไปหลบซ่อนอยู่ในป่าหลังโรงเรียน

โดยนักเรียนชาย 5 คน แช็ตมาบอก นางสาวซี เพื่อนรุ่นพี่ให้ซื้อบะหมี่ให้ด้วย นางสาวซี จึงให้ น้องบี ซื้อไปให้นักเรียนชาย 5 คนด้วยกัน ที่ป่าหลังโรงเรียนห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร

เมื่อไปถึงนำบะหมี่ให้กลุ่มนักเรียนชายเสร็จ นางสาวซี เดินแยกออกไปนั่งอยู่ริมน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ส่วน น้องบี ถูก 1 ใน 5 นักเรียนชาย ดึงตัวไว้ ก่อนจะผลักลงกับพื้น โดย 2 คน จับแขนและขาขึงไว้ เพื่อให้เด็กชายอีก 3 คน เรียงคิวกันล่วงละเมิดทางเพศและถ่ายคลิปไว้

หลังเกิดเหตุ น้องบี กลัวตัวสั่นและอับอาย จึงไม่กล้าบอกใคร เมื่อกลับมาถึงบ้านแม่เห็นลูกสาวผิดปกติ ซึมเศร้า อยู่ห้องคนเดียว ไม่ยอมพูดกับใคร ซึ่งตอนแรกคุณแม่ยังไม่รู้ แต่ความแดงขึ้นมาเพราะลูกชายที่เรียนโรงเรียนเดียวกันกับ น้องบี ไปเห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ดูคลิป ตนเองจึงเข้าไปถามว่าดูคลิปอะไรกัน พอเห็นคลิปเท่านั้นแหละ เห็นว่าเป็นน้องของตนเอง จึงรีบกลับบ้านไปบอกแม่ เมื่อแม่รู้ถึงกับเป็นลมล้มถึงยืน ช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายแม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความ

นางปวีณา กล่าวว่า นอกจากต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ น้องบี ผู้ที่ถูกกระทำแล้ว ยังต้องไปเยี่ยมบ้านเด็กผู้ชายทั้ง 5 คน ที่ก่อเหตุ ว่าเป็นอย่างไร เพราะการที่เด็กในวัย 14 ปี เหมือนกัน ได้กระทำเกินกว่าเหตุ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับเด็กด้วยกัน ถ้าเกิดว่าไม่ได้รับการบำบัด อาจจะเป็นอาชญากรของสังคมต่อไปได้ ทางมูลนิธิปวีณาฯ ต้องตามเรื่องให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องที่ต้องดำเนินอย่างเร่งด่วนคือต้องระงับการกระจายคลิป รวมทั้งติดตามการดำเนินคดี

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือเรื่องภายในโรงเรียน เนื่องจากทางโรงเรียนต้องการจะให้ น้องบี ผู้เสียหาย ย้ายออกจากโรงเรียน ส่วนทางแม่ของน้องบี ก็เสียใจมาก ลูกสาวถูกกระทำ และยังโดนให้ออกจากโรงเรียน ซึ่งทาง นางปวีณา ก็มองว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ก็ต้องประสานงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ฝากกับทางกระทรวงศึกษาธิการว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ซึ่งในระหว่างที่ตอบคำถามสื่อมวลชน ครอบครัวสุดจะกลั้นทนกับความเจ็บปวด จึงได้ร้องไห้ออกมา

นางปวีณา กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่เลวร้ายและน่าสงสารนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำซ้ำซาก ถูกรุมโทรมถ่ายคลิปและนำมาเผยแพร่ในโซเชียล โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ช่วยลบคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ประสานกับตำรวจในท้องที่ให้ติดตามคดีให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ประสานกับ กระทรวงศึกษาธิการ ให้นักเรียนหญิงผู้เสียหายได้เรียนที่โรงเรียนเดิม เพราะเด็กไม่ใช่ผู้กระทำผิด ประสานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ให้เข้าไปดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงผู้เสียหาย และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กชายทั้ง 5 คนที่ก่อเหตุ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือปรับพฤติกรรมให้อยู่ในสังคมได้ปกติสุข ประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามทางด้านคดี การลบคลิปที่เผยแพร่ และการช่วยเหลือต่อไป

ผอ.โรงเรียนเกิดเหตุ ยันให้เพียงผู้ก่อเหตุย้ายโรงเรียน จ.พิจิตร
ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุนักเรียนชาย 5 คน ข่มขืนนักเรียนหญิง ยืนยันให้นักเรียนชาย 5 คนที่ก่อเหตุย้ายโรงเรียน ส่วนนักเรียนหญิงผู้เสียหายให้พักเยียวยาจิตใจ 1 สัปดาห์ แต่ไม่เคยบอกให้ย้ายโรงเรียน

หลังเกิดเหตุได้เรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คน มาอบรมด้านพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประสานงานให้นักเรียนชายทั้ง 5 คน ย้ายไปเรียนยังโรงเรียนอื่น เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจของนักเรียนหญิงที่เป็นผู้เสียหาย ซึ่งผู้ปกครองยินยอมให้นักเรียนชายย้ายไปเรียนยังสถานศึกษาใหม่

ส่วนการดูแลนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ให้เรียนอยู่ที่เดิม แต่หลังเกิดเหตุเป็นช่วงเข้าค่ายลูกเสือพอดี จึงคุยกับผู้ปกครองว่าอยากให้นักเรียนได้พักเยียวยาจิตใจประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือก็ได้ แล้วจะให้ครูเข้าไปดูแลที่บ้านจนกว่าน้องผู้หญิงจะพร้อมมาโรงเรียน ไม่ได้ให้ย้ายไปเรียนที่อื่น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark