ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตู้ห่าวกับพวก ปฏิเสธทุกข้อหา

เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลนัดสอบคำให้การนัดแรก "ตู้ห่าว’ และพวกปฏิเสธทุกข้อหา ด้าน "ชูวิทย์" เกาะติดสังเกตการณ์ เผย 2 พยานปากสำคัญในคดี ถูกข่มขู่ เพราะต้องทำทุกวิถีทางให้ชนะคดี ยืนยัน เตรียมยื่นถอนประกัน "พันตำรวจเอกหญิง" ภรรยาตู้ห่าว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ ขณะที่สื่อผู้สื่อข่าวแห่งหนึ่งถูกกลุ่มบุคคลล้อมอุกอาจ สั่งลบคลิปข่าวให้หมด ด้านเจ้าตัวแจ้งความดำเนินคดีแล้ว

ตู้ห่าวกับพวก ปฏิเสธทุกข้อหา
เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสอบคำให้การตู้ห่าว หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ และพวกกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย ซึ่งถูกอัยการสั่งฟ้องใน 9 ข้อหา

ภายหลังจากศาลอ่านและอธิบายคำฟ้อง จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลรับคำให้การของจำเลยไว้พร้อมกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานคดี ในวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ในการนัดสอบคำให้การ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งติดตามและพยายามเปิดโปงเบื้องหน้าเบื้องหลังของขบวนการนี้มาตลอด ได้ไปปรากฏตัวที่ศาลด้วย โดย คุณชูวิทย์ ไปที่ศาลตั้งแต่ช่วงเช้าเลยทีเดียว 

ชูวิทย์ เผยพยานคดีตู้ห่าว ถูกขู่
คุณชูวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า กฎหมายเราศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าคนไทย หรือ ชาวต่างชาติถ้าทำผิดก็จะบังคับใช้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ได้แจ้งไปยัง พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า มีพยานสำคัญ 2 คน ในต่างจังหวัด ถูกข่มขู่ให้ถอนตัวจากการเป็นพยาน โดยมีบุคคลต้องสงสัย 3-4 คน ขับรถมาวนเวียนบริเวณหน้าบ้าน พร้อมทั้งส่งข้อความมาข่มขู่ จึงทำให้ตกใจกลัว

นอกจากนี้ จะเสนอให้พนักงานสอบสวนถอนประกันของ พันตำรวจเอกหญิง ภรรยาของนายตู้ห่าว ซึ่งเป็นจำเลยร่วมและได้ประกันตัวเพียงคนเดียว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ซึ่งสามารถขอให้ศาลเพิกถอนประกันได้ โดยคณะทำงานของตนได้เตรียมแจ้งข้อหาองค์กรอาชกรรมข้ามชาติ หลังขึ้นไปสังเกตการณ์การสอบคำให้การของ นายตู้ห่าว เสร็จสิ้น คุณชูวิทย์ ก็ลงมาเล่าบรรยากาศให้สื่อฟังอีกรอบหนึ่ง ฟังแล้วบรรยากาศก็ดูคุกรุ่นไม่น้อยเหมือนกัน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากผู้สื่อข่าวด้วยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการในศาล ปรากฎว่าขณะที่ผู้สื่อข่าวแห่งหนึ่งกำลังเฝ้าถ่ายภาพทำข่าวตามปกติ ได้เห็นกลุ่มบุคคลเดินลงมาจากศาล จึงเข้าไปบันทึกภาพตามหน้าที่ และเตรียมขอสัมภาษณ์ แต่กลับถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวประมาณ 7-8 คน เดินเข้ามาล้อมและบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพทำข่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้แจ้งไปว่าได้ขออนุญาต และรับอนุญาตจากศาลแล้ว แต่ก็ยังถูกปฏิเสธ พร้อมยืนยันให้ลบคลิปดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงลบคลิปให้ตามคำขอ แต่หนึ่งในกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังไม่พอใจ หยิบโทรศัพท์มือถือไปจากมือผู้สื่อข่าว พร้อมเอาไปกดลบคลิปในคลังถังขยะ จากนั้นก็ส่งคืนให้ ก่อนจะถูกต่อว่าอีกเล็กน้อยและแยกย้ายกันไป ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark