เก็บหลักฐานเพิ่ม "น้องต่อ" เด็ก 8 เดือน หายตัวไป 8 วัน

ข่าวอาชญากรรม 13 กุมภาพันธ์ 2566 - สนามข่าว 7 สี - เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว กับการหายตัวไปอย่างลึกลับของ "น้องต่อ" เด็กชาย อายุ 8 เดือน ที่บ้านพักจังหวัดนครปฐม ท่ามกลางความกังขาของญาติ และประเด็นสงสัยจากทีมสืบสวน

เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) เข้าสู่วันที่ 8 สำหรับการค้นหาเด็กชายต่อศักดิ์ หรือ "น้องต่อ" อายุ 8 เดือน ที่หายตัวไปขณะนอนอยู่ในบ้านพัก พื้นที่ สภ.บางหลวง จังหวัดนครปฐม โดยตำรวจกำลังเร่งสอบสวนทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยคดี "น้องชมพู่" ที่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร

ปฏิบัติการค้นหามีขึ้นในช่วงสาย โดยสนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ผู้นำชุมชน มูลนิธิกระจกเงา และอาสาสมัคร รวมกว่า 60 นาย ถือฤกษ์ด้วยการจุดธูปขอแม่ธรณีและแม่คงคา เพื่อเปิดทางให้ได้เจอเด็ก ใช้การปูพรมเดินเท้าลุยป่ารกทึบติดกับแม่น้ำท่าจีน เพื่อค้นหา "น้องต่อ" ซึ่งมีทั้งพ่อ อายุ 19 ปี และแม่ อายุ 16 ปี ใช้อุปกรณ์เป็นไม้และมีด เดินลุยป่าในรัศมี 1 กิโลเมตร ค้นหาลูกชายด้วย แต่ผ่านไปครึ่งค่อนวันก็ยังไม่มีวี่แวว ทำให้ต้องถอนกำลัง เพื่อกลับมาวางแผนในจุดอื่น ๆ อีกครั้งในวันนี้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม ยังเข้าตรวจสอบบ้านพักที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บผ้าห่มของเด็กไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย

การหายตัวไปของ "น้องต่อ" นับจากวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้การค้นหาใช้ทุกวิถีทาง ทั้งการหาในบ้าน รอบบ้าน ซอยใกล้บ้าน ป่าใกล้บ้าน รวมถึงค้นหาทางน้ำและการบินโดรนของเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่พบตัว

ส่วนการสอบสวน ตำรวจเรียกคนในครอบครัวและพยานแวดล้อมอื่น ๆ เข้าให้ปากคำครบหมดทุกคนแล้ว และเริ่มตีวงจำกัดเหลือผู้ต้องสงสัยเพียง 3 คนที่เกี่ยวข้องกับแม่เด็ก แต่ยอมรับว่ามีความยากลำบากในการสืบสวน เพราะข้อมูลที่มีค่อนข้างคลุมเครือ และกล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ไม่ชัดเจน ทั้งคำให้การจากปากแม่เด็กว่าเห็นชายเสื้อเหลืองมาอุ้มไป แต่ตำรวจก็ยังหาตัวไม่เจอ รวมทั้งหมอนของน้องที่มีคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งแม่อ้างว่าเป็นคราบเลือดจากริมฝีปากเด็กแตกจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมทั้งถุงยาที่พบ ทำให้นำไปสู่การตั้งรางวัล 10,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแส ในกรณีที่มีร่างทรงอ้างว่า เด็กยังอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ห่างจากบ้านประมาณ 30 กิโลเมตร ผู้ก่อเหตุรู้จักกับพ่อแม่เด็ก วันที่มาลักพาตัวไป สวมใส่เสื้อโทนสีขาวเหลือง กางเกงยีนส์ขาสั้น ไม่ท้วม วัยกลางคน และหลบหนีไปในเส้นทางตรงข้ามที่ตำรวจตามหา จงใจมาเอาเด็กโดยเฉพาะ นอกจากนี้การนั่งกรรมฐาน 

ประเด็นเหล่านี้ ตำรวจยืนยันว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ จะนำมาใส่ในสำนวนคดีไม่ได้ เพราะเน้นการตรวจสอบจากนิติวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญคนร้ายไม่ได้ทิ้งหลักฐานไว้เลย แต่ก็เชื่อว่าเด็กยังมีชีวิต ฝากเตือนไปถึงบุคคลที่อุ้มเด็กไปขอให้นำมาคืนเพราะมีความผิด คดีนี้ประชาชนสนใจมาก บ้างมุ่งประเด็นไปถึงการซื้อขายเด็ก ซึ่งก็ไม่ตัดทิ้ง แต่ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปในทำนองนั้น