พล.ต.ท.ปัญญา มือปราบคดีเสือดำ ถูกภรรยายิงเสียชีวิต

เช้านี้ที่หมอชิต - พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข นายตำรวจมือปราบชื่อดังหลายคดี ทั้งคดีเสือดำ จนล่าสุดมีส่วนร่วมในการลุยทำคดีมาเก๊า888 ถูกยิงเสียชีวิตคาบ้านพัก ด้วยน้ำมือของภรรยาตัวเอง

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ตำรวจ สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยบรมราชชนนี 70 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสอง ชั้นปลูกในพื้นที่มีรั้วรอบขอบชิด พบศพ พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่หน้าอก 1 นัด เสียชีวิตอยู่ที่ชั้น 1 ของตัวบ้าน เมื่อขึ้นไปตรวจสอบที่ชั้นสอง พบปืนขนาด 9 มม. อยู่ในซองปืน และปืนขนาด .38 ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นภรรยาของ พลตำรวจโทปัญญา ซึ่งตำรวจจะได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ธรรมศาลา

คนงานภายในบ้าน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียง พลตำรวจโทปัญญา ทะเลาะกับภรรยาที่ชั้น 2 ของบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 สองนัด จากนั้นก็ได้ยินภรรยาของผู้ตายร้องเสียงดัง จึงวิ่งขึ้นไปดูและพยายามอุ้มคนเจ็บเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนภรรยาได้วิ่งตามลงมาและนั่งร้องไห้อยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน

ตำรวจคุมตัวภรรยาของ พลตำรวจโทปัญญา ไปสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับ พลตำรวจโทปัญญา ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และขึ้นเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในอดีตเคยดูแลคดีสำคัญหลายคดี แต่คดีที่ต้องพูดถึงคือ คดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่มีผู้ต้องหาคนสำคัญคือ นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย และถือเป็นผู้เชี่ยวชาญคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และคดีความมั่นคง ปัจจุบันยังเป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงคดีบ่อนพนันออนไลน์มาเก๊า888 อีกด้วย

ต่อมา พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถพูดคุยกับภรรยาของพลตำรวจโทปัญญาได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มอบหมายให้ พลตำรวจตรี จักรภพ สุคนธราช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 เข้าร่วมสอบปากคำ และให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำโทรศัพท์มือถือ และกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาความเครียดในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน หรือเพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า พลตำรวจโทปัญญา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนอารมณ์ดี น่ารัก สุภาพ เป็นคนมีความรู้ และขยันทำงาน สำหรับครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่น่ารัก ซึ่งยังแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่ามาจากปัญหาความเครียดส่วนตัวภายในครอบครัว

นางสำรอง ชนิดกุล แม่ค้าขายของฝั่งตรงข้ามบ้าน พลตำรวจโทปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณ 13.00 น. ขณะกำลังมาเปิดร้านขายอาหาร ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จากนั้นได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะเงียบไป และอีก 5 นาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด พร้อมเสียงกรีดร้องของผู้หญิงเช่นเดิม จากนั้นเพื่อนบ้านได้รีบวิ่งเข้าไปให้การช่วยเหลือเพื่อจะนำตัว พลตำรวจโทปัญญา ส่งโรงพยาบาล

นางสำรอง ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาตนมาเปิดร้านขายอาหารได้ 4 ปี ก็เห็นครอบครัวนี้อาศัยอยู่แล้ว และที่ผ่านมาคนในครอบครัวนี้เป็นคนมารยาทดี พูดจาเพราะ เป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญตักบาตร ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ยินว่าจะมีปากเสียงกันในบ้านแต่อย่างใด และเมื่อไม่กี่วันก่อนทั้งคู่ก็ยังเดินทางไปงานศพด้วยกัน ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้

มีรายงานว่า ช่วงแรกของการสอบปากคำ นางพรประภา ปิ่นสุข ภรรยา พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข บอกว่า พลตำรวจโทปัญญายิงตัวเองเสียชีวิต แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ และใช้เวลาสอบปากคำค่อนข้างนาน เพราะนางพรประภามีอาการช็อก เล่าเหตุการณ์แบบไม่ปะติดปะต่อ  

จนช่วงค่ำวานนี้ นางพรประภาเริ่มมีความผ่อนคลายจากอาการช็อก และยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลั่นไกด้วยตัวเอง เบื้องต้นเล่าว่าเป็นปัญหาความเครียดภายในครอบครัวที่สะสมมาเป็นเวลานาน แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะเดียวกันญาติได้เตรียมหลักทรัพย์ จำนวน 500,000 บาท เพื่อยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ คาดว่าพนักงานสอบสวนอาจจะให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง, ไม่มีพฤติกรรมการหลบหนี และยอมรับสารภาพ ตรงตามเงื่อนไขการประกันตัว

ทั้งนี้ ตำรวจได้มีการตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน และเก็บหลักฐาน จากตัวผู้ก่อเหตุไว้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดีต่อไป