ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

"หมอกฤตไท" สู้มะเร็ง แชร์บทเรียน เมื่อชีวิตมีเวลาจำกัด ขอให้เรามีความสุขกับ "วันนี้"


"หมอกฤตไท" สู้โรคมะเร็ง แชร์บทเรียน "เมื่อชีวิตมีเวลาจำกัด" ไม่รู้จะจากโลกนี้ไปวันไหน ขอให้เรามีความสุขกับ "วันนี้" 

วันที่ 20 ก.พ.66 หมอหนุ่มสู้มะเร็งปอดระยะสุดท้าย นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อายุ 28 ปี  โพสต์ข้อความอีกครั้งผ่าน "เพจสู้ดิวะ" ส่งต่อกำลังใจ เมื่อชีวิตมีเวลาจำกัด ขอให้ทุกคนมี "วันนี้" ที่มีความสุข

โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.66 ผมได้รับโอกาสที่สำคัญมากๆ ในการไปพูดคุยกับน้องสวนกุหลาบรุ่น 141 ในวันจากเหย้า หรือวันสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมัธยมปลายของน้องสวนกุหลาบ หัวข้อที่ได้รับบรีฟคือ "วิธีคิดของเราที่จะทำให้น้องเข้าใจตัวเอง และพร้อมเจอกับโลกมากขึ้น"

วันนี้จะลองสรุปเนื้อหาบางส่วนที่พูดคุยกับน้องสวนกุหลาบ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ

สวนกุหลาบรุ่น 131 สิบปีแล้วที่พี่จบจากโรงเรียนนี้ไป ตอนนั้น วันจากเหย้าของพี่ตรงกับวันสัมภาษณ์แพทย์เชียงใหม่ งานจากเหย้าจึงเป็นงานเดียวในชีวิตสวนกุหลาบที่พี่ไม่ได้เข้าร่วม ดังนั้นการได้รับเกียรติได้มาอยู่ในห้องประชุมในวันนี้ก็ถือเป็นการเติมเต็มชีวิตพี่เหมือนกัน หลังจากจบจากสวนกุหลาบ พี่ได้มาเริ่มใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ เริ่มด้วยชีวิตการเป็นนักศึกษาแพทย์ เรียนจบแพทยศาสตร์บัณฑิต ได้แชมป์บาสเกตบอลกีฬาเข็มสัมพันธ์ อะไรที่นักศึกษาสักคนนึงจะทำได้ก็ได้ทำหมดแล้ว หลังจากเรียนจบก็เป็นหมอ เรียนต่อเฉพาะทาง ระหว่างเรียนเฉพาะทางก็ไปเรียนปริญญาโทวิทยาการข้อมูลอีกใบคู่กันไป และมาถึงจุดนี้ เรียนจบหมดทุกอย่างแล้วได้ใบปริญญามาเต็มบ้าน แล้วก็มาสมัครเป็นอาจารย์แพทย์ต่อ

"พี่คุกเข่าขอแฟนแต่งงานแล้ว กำลังจะไปเรียนคอร์สสั้นๆ ที่สวิสเซอร์แลนด์ปลายปี พี่มีคนรอบตัวที่พร้อมสนับสนุน มีการวางแผนการเงินที่รัดกุม และหน้าที่การงานที่แสนมั่นคง ชีวิตโคตรตรงไปตรงมา ตามตำราชีวิตที่แม่จะเอาไปอวดป้าข้างบ้านได้สบายๆ แล้วพี่ก็เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ก้อนในปอดที่มีขนาดใหญ่พอๆกับหัวใจ และก้อนในหัวที่ใหญ่พอๆกับลูกตา"


หมอกฤตไท ระบุด้วยว่า จากชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่ชีวิตดูจะมีแต่ความเป็นไปได้ไม่จำกัด ชีวิตที่เคยคิดว่าเราจะสามารถทำทุกอย่างที่เราอยากทำได้ สามารถบริหารจัดการชีวิตตัวเองเพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างเต็มที่ ร่างกายที่ผ่านการดูแลอย่างยอดเยี่ยมก็ยังมาป่วยเป็นโรคร้ายแบบนี้ จากวันนั้น ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องที่ยิ่งใหญ่แต่เรียบง่ายมากๆ ว่า "เรามีเวลาจำกัด"

ก่อนหน้านี้พี่เอาใจไปคิดว่าชีวิตเราจะอยู่ไปได้อีกนาน มุมมองต่อเวลาที่มีคือ คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็มีเวลาเท่ากับเรา ดังนั้นเราต้องทุ่มเทเวลาไปกับการใช้ชีวิตให้ไปถึงความสำเร็จ ต้องบริหารเวลาให้ทำได้ทุกอย่างตามที่เราต้องการ แต่ที่จริง เวลาในชีวิตเรามีจำกัด แม้ว่าเราจะสามารถมีแทบทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่เราไม่สามารถมีทุกสิ่งทุกอย่างได้ เราต้องเลือกบางสิ่ง และยอมสละหลายสิ่งที่เราไม่ได้เลือกไปเสมอ เป็นความจริงที่ตรงไปตรงมามาก ว่าเวลาเราไม่ได้มีมากพอให้เราไปทำหรือมีทุกอย่างในโลก"

อย่างการที่น้องเป็นนักเรียนสวนกุหลาบ คือน้องเลือกที่จะไม่ไปเรียนมัธยมที่อื่น การที่น้องเลือกคบแฟนคนนี้ คือน้องยอมสละโอกาสที่จะได้เจอคนอื่นๆ การที่น้องเลือก ใช้ชีวิตในวันนี้แบบนี้ เป็นการที่น้องเสียโอกาสที่จะใช้มันไปแบบอื่น สิ่งที่น้องเลือกมาแล้ว มันจึงเป็นสิ่งที่พิเศษและสำคัญมากๆ เพราะน้องกำลังสละหลายสิ่งเพื่อให้ได้สิ่งนี้มา เพราะฉะนั้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าน้อง ณ ตอนนี้ ในช่วงเวลานี้ มันจึงเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด วันนี้ของน้องเป็นสิ่งเดียวที่น้องมี พี่เชื่อว่าชีวิตเราไม่ใช่เส้น แต่เป็นจุดครับ จุดที่เป็นตัวแทนของแต่ละวัน สุดท้ายจุดของน้องจะต่อกันเป็นเส้นยังไงไม่มีใครรู้ แต่เรามีหน้าที่แค่อยู่กับจุดของแต่ละวันให้เต็มที่ที่สุด


หลังจากป่วยคือ ผมให้ความสำคัญกับวันนี้มากๆ เพราะเอาจริงเราไม่รู้หรอกว่าแผนที่วางไว้ เราจะตายก่อนไปถึงแผนนั้นหรือเปล่า ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับคนตรงหน้า มีความสุขกับวันนี้ พี่โชคดีขนาดไหนที่โรคมะเร็งยังไม่เอาชีวิตพี่ไป พี่ไม่ตายในห้องผ่าตัด ไม่ตายตอนได้รับเคมีบำบัด หรือการที่พี่ยังสามารถคงความเป็นตัวเองได้แบบนี้ มันโคตรโชคดีเลย แล้วพี่ก็ไม่รู้ด้วยว่า หลังจากวันนี้ที่พี่เจอเพื่อนพี่แล้ว พี่จะได้มีโอกาสกลับมาเจอพวกมันอีกไหม มื้อเย็นนี้มันอาจเป็นการกินข้าวกับเพื่อนสวนกุหลาบครั้งสุดท้ายของพี่แล้วก็ได้

หวังว่า น้องใช้ช่วงเวลาตรงหน้าน้องอย่างเต็มที่ที่สุด เห็นความสำคัญของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าน้อง คนที่น้องกำลังคุยด้วย มื้ออาหารที่น้องกำลังกิน เพลงที่น้องกำลังร้อง และเพื่อนที่น้องกำลังกอดคอร้องไห้กัน บรรยากาศที่เกิดขึ้นในหอประชุมนั้นมันไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้จริงๆ ทั้งสนุกและมีพลังมากๆ ขอบคุณน้องที่ตั้งใจฟัง และขอบคุณอาจารย์สวนกุหลาบที่ให้โอกาสไปพูดกับน้องๆ

การได้มาพูดคุยกับน้องนี่เป็นเรื่องที่เกินความคาดหวังของชีวิตผมไปมากๆ หนึ่งชั่วโมงที่อยู่บนเวทีนี้ มีคุณค่ากับผมมากจริงๆ และมันอาจจะเป็นเวทีสุดท้ายของผมแล้วก็ได้ ผมไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะตื่นมาแล้วยังปกติแบบนี้ไหม ผมอาจจะไม่สามารถพูดอะไรแบบนี้ได้แล้ว  และผมอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยมาพูดงานนี้ แต่ในขณะที่ชีวิตยังให้โอกาสผมปกติมากพอที่จะไปพูดกับน้อง รวมถึงการที่ผมยังสามารถมาเขียนโพสต์นี้ได้ ผมว่า วันนี้ผมโคตรโชคดี ขอให้ทุกคนมี "วันนี้" ที่มีความสุข



BUGABOONEWS
ข้อมูลจากเพจ สู้ดิวะ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark