ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

นายกฯ สั่งถอนรถไฟฟ้าสายสีส้มจาก ครม.

เช้านี้ที่หมอชิต - การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้มีเรื่องใหญ่หลายเรื่องที่สื่อรอฟังคำตอบจากนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะวันยุบสภาที่ชัดเจน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในระยะเวลาที่เหลือของคณะรัฐมนตรีชุดนี้หรือไม่ เราไปติดตามบรรยากาศร้อน ๆ กับการประชุมมาราธอนยาว ๆ 7 ชั่วโมงที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้กัน

ท่านนายกฯ ถึงกับป้องหูทันที เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงความชัดเจนเรื่องการยุบสภา และการประชุม ครม.นัดสุดท้ายวันไหน แต่อุตส่าห์ป้องหูฟังแล้ว ท่านก็ยังตอบไม่ชัด แถมยังถามสื่อกลับว่า "เขาห้ามประชุมครม.หรือ เขาห้ามประชุมครม.ต่อหรือ" สื่อตอบว่า ประชุมได้แต่หากยุบสภา ครม.จะไม่มีอำนาจเต็ม พลเอก ประยุทธ์ ย้อนถามว่า "คิดว่านายกฯ ไม่ทราบหรือ ถ้าทราบก็จบ" แล้วท่านก็เดินขึ้นทำเนียบไป แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อวานนี้ท่านจะไม่ตอบอะไรเลยซึ่งก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่โพเดี้ยมอยู่ครู่หนึ่งเกี่ยวกับเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งท่านยืนยันว่าไม่มีวาระนี้เข้า ครม.

อย่างไรก็ตาม คำว่าไม่มีการพิจารณาครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสนใจ เพราะไม่ได้หมายความว่าไม่มีการนำเรื่องนี้เข้า ครม. แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีการหารือเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มก็นานกว่า 1 ชั่วโมง เป็นการเสนอเข้ามาเป็นวาระพิจารณาจรที่ 21 โดยผู้สื่อข่าวระบุว่า นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีคมนาคม เป็นผู้เซ็นโครงการเข้ามา แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพียงยืนยันว่าเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำตามขั้นตอนแล้ว ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม บอกว่า นายอธิรัฐ ไม่ได้เสนอวาระจร แต่เรื่องมันจร เพราะเรื่องเพิ่งเสนอเข้ามา กว่าจะขอความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ จึงเข้ามาตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มีรัฐมนตรีหลายกระทรวงแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะให้พิจารณาเรื่องนี้ ท้ายที่สุด นายอธิรัฐ จึงต้องถอนเรื่องออกไป เมื่อถอนไปแล้วจึงให้ถือว่าไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ ตามที่ท่านนายกฯชี้แจง

รายงานบอกว่า กว่าจะถอนเรื่องบรรยากาศในที่ประชุมค่อนข้างดุเดือด บางท่านตั้งคำถามว่า ทำไมต้องมาเสนอในวันสุดท้าย หากอนุมัติไปจะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก ทั้งยังอาจกระทบต่อการเมือง เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง บางคนบอกว่าจะวอร์กเอาธ์ถ้าจะพิจารณาเรื่องนี้ก็มี นอกจากนี้ ในเอกสารของหลายหน่วยงานก็แสดงความเห็นชัดเจนว่าให้รอศาลปกครองสูงสุดตัดสินคดีที่ยังไม่จบ จึงทำให้เรื่องนี้นายกฯ ขอให้ถอนเรื่องนี้ออกจาก ครม. ไปก่อน

แต่เรื่องนี้ยังต้องตามต่อ จำได้หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มีนาคม ตอนนั้นมีเวลา 3 สัปดาห์ หากไม่ยุบสภา ก็เป็นคำถามว่า หลังนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายอธิรัฐ จะกล้านำเรื่องนี้เข้าสู่ ครม.หรือไม่ ซึ่งในที่สุดเราก็ได้ทราบแล้วว่ามีการนำเข้ามาเป็นวาระจร ก่อนจะถูกถอนออกไปเมื่อวานนี้ ซึ่งหากมีการยุบสภาเกิดขึ้นช่วงนี้ การนำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถือว่าต้องไปว่ากันรัฐบาลชุดหน้า

แต่หากการยุบสภาเกิดขึ้นหลังวันที่ 21 หรือไม่มีการยุบสภา จะยังเหลือการประชุม ครม.อีกหนึ่งครั้ง โดยในที่ประชุม ครม. เมื่อวานนี้ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นและชวนให้จับสัญญาณการขับเคลื่อนครั้งสุดท้าย นั่นก็คือการตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็น รัฐมนตรีรักษาการกระทรวงคมนาคมแทน กรณีที่นายอธิรัฐ ไม่อยู่ ฟังความเห็นคุณอนุทินเรื่องนี้กันสักนิดว่าสายสีส้มจะมีโอกาสเข้า ครม. ครั้งสุดท้ายหรือไม่

ย้ำกันให้ชัด จะมีการนำเข้ากรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มสู่ ครม.อีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหากในสัปดาห์หน้ายังมีการประชุม ครม.ครั้งสุดท้าย ไม่ยุบสภาไปเสียก่อน ต้องคอยดูกันว่า นายอธิรัฐ จะติดธุระไม่อยู่หรือไม่ และนายอนุทิน จะเป็นลงมากุมบังเหียนเองในฐานะรัฐมนตรีคมนาคมรักษาการแทนหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้มหากาพย์รถไฟฟ้าสายสีส้มไปว่ากันต่อในรัฐบาลชุดต่อไป

ในขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมีตีแผ่เบื้องหลังการนำวาระรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เช่นกัน โดยโพสต์ว่า รถไฟฟ้าสายอาถรรพ์

รถไฟฟ้าสายสีส้มถูกนำเข้า ครม. ด้วยความเห็นชอบของรองนายกฯ ที่ดูแลกระทรวงคมนาคม คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่พยายามอย่างยิ่งยวด อยากให้ผ่านในวาระประชุมทิ้งทวนครั้งนี้ให้ได้ ด้วยการไฟเขียวของนายกฯ ที่ขณะนี้เปรียบเสมือน "คอหอยกับลูกกระเดือก" คู่นายอนุทิน

เรื่องของเรื่องคือ หลงคารมนายอนุทินในเรื่องคะแนนเสียง หารู้ไม่ว่า ขณะนี้ตกต่ำขนาดหน้าอกติดดินแล้ว การประชุมมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เพราะมีเรื่องคาอยู่ที่ศาล และสังคมจับจ้อง แต่นายวิษณุ เครืองาม และผู้ว่าฯ รฟม. นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ วางเกมตั้งแต่เมื่อคืนโดยยกเหตุผลว่า "ประชาชนจะเดือดร้อน" รัฐมนตรีมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา คัดค้านถามว่า "หากขึ้นศาลจะอ้างประชาชนที่ไหน?" ประสานเสียงผู้ที่ไม่เห็นด้วยอีกหลายคน คอยคัดค้านอยู่ ได้แก่

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย,นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.สำนักนายกฯ

ส่วนผู้ที่เห็นชอบมี นายอเนก เหล่าธรรมนัศน์ รมว.อุดมศึกษาฯ, นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รมว.ท่องเที่ยวกีฬา, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข

สองรายหลังนี้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นตัวตั้งตัวตี ใครเป็นใครสังคมจดจำเอาไว้แล้วกันท้ายสุด นายกฯ ยอมถอย ให้ถอนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มออกจากวาระ และอย่านำเข้าประชุม ครม. อีก

เรื่องนี้ หากผมไม่นำเอามาให้สังคมได้เห็นถึงผลต่างที่ BTS เสนอคืนผลตอบแทนให้รัฐ ในระยะเวลา 30 ปี ถึง 70,000 ล้านบาท ในขณะที่ BEM เสนอเพียง 7,000 ล้านบาท หรือปีละ 233 ล้านบาท เดือนละแค่ 19.4 ล้านบาท ห่างกันถึง 1,000% คิดดูแล้วกันว่า ผลประโยชน์ไปตกที่ไหน? มันแตกต่างกันอย่างมหาศาล คำสาปแช่งผมคงได้ผล "ใครที่ได้เงินจากรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้ากระเป๋าส่วนตัว ขอให้วิบัติล่มจม ได้ใช้เงินแบงค์กงเต๊ก ที่เผาไปให้ใช้ในปรโลก" จะได้สำนึกเรื่องผลประโยชน์บ้านเมืองบ้าง มันช่างอาถรรพ์จริงๆ ครับ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark