คอลัมน์หมายเลข 7 : สาวไส้ รอง สสจ.โคราช จัดอบรมทิพย์ เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท
ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ สาวไส้กรณี สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาจัดสัมมนาทิพย์ ซึ่งคุณมะลิ แซ่ฉิ่น ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ พบเส้นเงินไหลเวียนในบัญชีมากกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวข้องและพัวพันข้าราชการหลายคน ติดตามจากรายงาน
นี่เป็นปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์สินของข้าราชการระดับสูง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดย ปปง. และ ป.ป.ท. ได้สนธิกำลังกันเข้ายึดอายัด 4 จุด พร้อมกัน ในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่ง 2 ใน 4 เป็นบ้านพัก ของรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา มีเจ้าตัวเป็นผู้เปิดประตูบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจและอายัดทรัพย์สิน ก่อนจะลำเลียงมาที่สำนักงาน ป.ป.ท.
คอลัมน์หมายเลข 7 เจาะข้อมูลการตรวจสอบเพิ่มเติม พบพิรุธการเบิกจ่าย มีด้วยกัน 3 ประเด็นหลัก คือ การแอบอ้างนำรายชื่อบุคคลอื่นมาเป็นผู้จัดทำอาหารและเบิกค่าอาหารตามเอกสารการเบิกจ่าย ในขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำอาหารและเบิกค่าอาหารแต่อย่างใด
ผู้มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ ยังให้ข้อมูลยืนยันตรงกันอีกว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารเข้าร่วมโครงการตามวัน เวลา และสถานที่ ตามที่ปรากฏในโครงการ
เช่นเดียวกับสถานที่จัดงาน ซึ่งส่วนใหญ่ระบุเป็นสถานที่ราชการ แต่จากการสอบถามเจ้าของสถานที่ ยืนยันว่า ไม่มีการจัดโครงการจริง และไม่ปรากฏหนังสือราชการถึงเจ้าของสถานที่ เพื่อขอใช้สถานที่ในการจัดโครงการแต่อย่างใด
ขณะที่การตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางการเงิน พบว่า มีบัญชีการโอนเงินผ่านเข้าสู่ธนาคารที่มีชื่อของรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา มากกว่า 50 ล้านบาท และยังพบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีไปหาคนอีกหลายกลุ่ม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ปปง. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร เนื่องจากข้อมูลในเชิงลึกใหม่ พบว่ารองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดคนนี้ ไม่ได้มีอาชีพอื่น นอกจากการเป็นข้าราชการ
สำหรับขั้นตอนหลังการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้โต้แย้งภายใน 30 วัน ซึ่งหากฟังไม่ขึ้น ก็จะมีการสรุปสำนวนเพื่อส่งพนักงานอัยการ และฟ้องให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน เพราะในกรณีนี้ มีการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินจึงเข้าข่ายการฟอกเงิน ซึ่งจะต้องมีการดำเนินมาตรการทางคดีอาญา โดยในเบื้องต้นพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 คน ลำดับสูงสุดที่ตรวจสอบ ณ ขณะนี้ยังคงเป็นเพียงรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
