เปิดภาพวินาทีเข้าชาร์จตำรวจคลั่งกราดยิง ย่านสายไหม [เจาะเกาะติด]

ประเด็นเด็ด 7 สี - เริ่มกันที่คดีตำรวจคลั่งกราดยิงในหมู่บ้านย่านสายไหม เกือบ 100 นัด ที่ตำรวจต้องใช้เวลาปิดล้อมนานกว่า 27 ชั่วโมง ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ หน่วยอรินทราช เปิดปฏิบัติการบุกเข้าชาร์จได้แล้ว ด้านตำรวจปลอดภัยทุกราย ไปติดตามกับ คุณไพศาล รัตนบรรเทิง 

เป็นเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่อง ขณะหน่วยอรินทราชเปิดปฏิบัติการเข้าชาร์จตำรวจคลั่ง ขณะหลบอยู่ในบ้านพักเมื่อเวลา 12.10 น. วันนี้ นอกจากนี้จะเห็นว่าภาพมุมสูงจากโดรนของตำรวจที่ถูกนำมาเปิดเผย จับภาพขณะผู้ก่อเหตุถือมีดทุบหน้าต่างบานเกล็ดหลังบ้านบริเวณชั้น 2 ก่อนกระโดดลงมาชั้นล่างซึ่งมีความสูงเกือบ 3 เมตร นอนนิ่งอยู่กับพื้น ก่อนถูกตำรวจหลายนายเข้าล็อกตัวไว้ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลัง พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง พร้อมโทรศัพท์พูดคุยเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุด้วยภาษาเหนือคนบ้านเดียวกัน

การเจรจาเหมือนจะเป็นไปด้วยดี น้ำเสียงและท่าทีอ่อนลง มีการร้องขอบุหรี่จากตำรวจ แต่ต่อมาก็มีท่าทีแข็งกร้าว ก่อนจะวางสายทิ้งไป หลังจากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ต่อมาหลังการเจรจาไม่สำเร็จ สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อเราเห็นหน่วยอรินทราชเริ่มเข้ากระชับพื้นที่ และมีการนำสตั๊นบอมบ์เข้ามาเตรียมความพร้อม ก่อนเวลา 11.52 น. เจ้าหน้าที่กันสื่อมวลชน และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากแนวกระสุน ก่อนเริ่มเปิดปฏิบัติการ แบ่งกำลังเป็น 2 ส่วน ชุดแรกปืนบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 เปิดหน้าต่างบานเกล็ดเข้าไป และอีกชุดเข้าบริเวณประตูด้านหลังชั้นล่าง ก่อนระดมยิงกระสุนยาง สตั๊นบอมบ์ และกระสุนจริงเข้าไป ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ นำตำรวจคลั่งที่ถูกยิงบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ตำรวจระบุว่าการตัดสินใจใช้ห้วงเวลาดังกล่าวเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ เพราะจากการประเมินจากผู้บังคับบัญชา และทีมแพทย์ต้องรีบควบคุมสถานการณ์ เพราะผู้ก่อเหตุคือผู้ป่วยต้องรีบรับยา

หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เข้าเก็บรวบรวมพยาน โดยเฉพาะกระสุนปืนว่าถูกยิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ และผู้ก่อเหตุกี่นัด รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน ก่อนแจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุ

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกดีใจที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แม้จะใช้เวลานาน จึงได้ทยอยนำญาติที่อพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุทยอยนำกลับเข้าบ้าน พร้อมยืนยันแม้ตำรวจคลั่งรายนี้จะกลับมาก็จะไม่กลัว เพราะเขาไม่ได้ทำร้ายใคร