พบประวัติผู้วางสารไซยาไนด์ฆ่า 14 ศพ ป่วยจิตเวช

ข่าวอาชญากรรม 28 เมษายน 2566 - เช้าข่าว 7 สี - หลังพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาวางสารพิษ ไซยาไนด์ มีประวัติพบว่ามีประวัติการรักษาป่วยจิตเวช แต่ขาดการรักษามา ก็มีผู้ตั้งคำถามว่า จะใช้อาการป่วย เป็นไม้เด็ด เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีหรือไม่

พบประวัติผู้วางสารไซยาไนด์ฆ่า 14 ศพ ป่วยจิตเวช 
หลังจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ต้องหา พบว่า มีประวัติรักษาป่วยจิตเวช เมื่อปี 2561 หรือ เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ก่อนขาดการรักษา 2 ปี กรณีนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ปัญหาเรื่องจิตเวชของผู้ต้องหา ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้หักล้างกับการกระทำผิดได้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดโดยรู้ตัว และมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี 

ซึ่งจากพฤติการแล้วไม่น่ามีส่วนให้ลดโทษ เพราะผู้ต้องหาไม่ได้ป่วย เขารู้ตัวมาตลอด มีการวางแผนทำทุกขั้นตอน ตำรวจจะส่งฟ้องแน่นอน

ขณะที่ตลอดเมื่อวานนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตทยอยเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจที่สโมสรตำรวจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด วันนี้เพิ่มขึ้นสองราย รายแรกอายุ 36 ปี เสียชีวิต ในพื้นที่ สภ.โพรงมะเดื่อ จังหวัดนครปฐม และอีกรายเป็นภรรยาของข้าราชการตำรวจเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ทั้งสองคนมีความเกี่ยวพันกับนางสาวแอม และพบกับนางสาวแอม เป็นช่วงสุดท้ายก่อนเสียชีวิต รวมแล้วมีเสียชีวิตแล้วขณะนี้ 14 ราย

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก มีพยานหลักฐานค่อนข้างครบถ้วน แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า ผู้ต้องหาอาจไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะมีการใช้สารพิษแบบผู้มีความรู้ แต่จะรู้วิธีการใช้จากบุคคลใด ต้องรอการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า อาจมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหาอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอให้รีบเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือ แจ้งข้อมูลที่สายด่วน 191

ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ ผู้ต้องขัง ถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และเกิดความเครียดกังวล จนความดันขึ้นสูง แพทย์ได้ตรวจรักษา อาการที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ของผู้ต้องขัง โดยขณะนี้ยังอยู่ห้องกักโรค มีนักจิตวิทยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดความเครียด และหลังจากไม่พบว่าผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ก็จะย้ายไปขังในแดนปกติต่อไป

อัปเดตตรวจวัตถุพยาน หาสารพิษไซยาไนด์
รองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผย ผลการตรวจสอบการปนเปื้อนสารพิษไซยาไนด์ ในวัตถุพยาน (400ชิ้น) ที่ได้รับจากตำรวจ ล่าสุด ตรวจพบแล้วในตัวอย่างที่เก็บได้จากคอนโซล และพรมในรถยนต์ของผู้ต้องหา

สภาเภสัชกรรม คาดโทษจรรยาบรรณ เอี่ยวสารไซยาไนด์ 
สภาเภสัชกรรม ได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิด เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว หากสอบสวนแล้วพบว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมรายใด มีส่วนเกี่ยวพันกับการกระทำผิด สภาเภสัชกรรมพร้อมจะพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณ ตามกฎข้อบังคับต่อไป