ศาลฯ ยกคำร้องขอออกหมายจับคนใกล้ชิด แอม ให้ออกหมายเรียกก่อน

เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลอาญาแนะ บิ๊กโจ๊ก ให้ออกหมายเรียก ทนายแอม แทนหมายจับเพื่อความเป็นธรรม ชี้พฤติการณ์เหมือน รองอ๊อฟ อดีตสามีแอม ด้าน ทนายแอมโดนข้อหาด้วย ปมส่งหลักฐานพัสดุทรัพย์สินของก้อย

พลตำรวจเอก สุรเชรษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังจากเดินทางมายื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับ นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง โดยกล่าวว่า ศาลอาญายกคำร้องขอออกหมายจับ พร้อมแนะนำให้กลับไปออกหมายเรียกแทน เพราะว่าพฤติการณ์ความผิดของบุคคลใกล้ชิดคนนี้ มีพฤติการณ์เดียวกับอดีตสามีตำรวจของแอม และเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย โดยจะออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบปรามในช่วง 19.00 น. ของวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ซึ่งมีรายงานว่า บุคคลใกล้ชิดที่ออกหมายเรียก คือ นางสาวธันย์นิชา ทนายความของแอมนั่นเอง โดยเรื่องนี้ยืนยันจากการเปิดเผยของ พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ว่าได้เรียกให้มาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 184 "ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงโดยการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด"

หลังพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการจัดส่งกระเป๋าแบรนด์เนมและทรัพย์สินของ นางสาวศิริพร หรือ ก้อย ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ไปให้กับ นางสาวแก้ว พยานอีกคนหนึ่ง เพื่อจะอำพรางหลักฐานทางคดี โดย นางสาวธันย์นิชา ตอบรับว่าจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเวลาประมาณ 19.00 น. ของวานนี้ แต่จากการที่สื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวบริเวณที่กองปราบปราม ยังคงไม่พบว่าทนายคนดังกล่าวจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก สุรเชรษฐ์ หักพาล ยังเปิดเผยอีกว่า 25 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะเข้าไปสอบเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงาน เพื่อจะเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของโรงงานที่จำหน่ายสารไซยาไนด์ให้กับแอม รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานเองที่อาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อีกด้วย