ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

อ.วันวิชิต ชี้ สว.ถือแต้มต่อ แต่รับแรงกดดันเลือกนายกฯ

เช้านี้ที่หมอชิต - นักวิชาการรัฐศาสตร์ มองว่า หลังการลงเอ็มโอยูพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว วันนี้ ถนนทุกสายจะจับตาที่การประชุมสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ซึ่งแม้ตอนนี้ สว. จะดูมีแต้มต่อในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีแรงกดดันจากสังคมเช่นกัน
 
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการเช้านี้ที่หมอชิต ต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดย พรรคก้าวไกล หลังการลงเอ็มโอยูพรรคร่วมว่า ต้องจับตาสถานการณ์วันต่อวัน ทุกอย่างดูขลุกขลัก แต่ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ

ส่วนวันนี้ ถนนทุกสายจะจับตาดูการประชุมของสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ซึ่งจากนี้ท่าทีของทั้ง สว. และ พรรคก้าวไกล จะบรรจบและพูดคุยกันได้มากน้อยแค่ไหน ต่างฝ่ายต่างยอมถอยคนละก้าว หรือรับฟังกันหรือไม่ โดยตอนนี้ สว. ถือแต้มต่อในฐานะผู้มีสิทธิโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องอาศัยเสียงจาก สว. มากพอสมควร

ในขณะเดียวกัน สว. มีแรงกดดันจากสังคมว่า สว. จำเป็นต้องเคารพหลักการของพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ให้สามารถจับขั้วรัฐบาลได้เป็นเสียงข้างมาก เพื่อไม่ให้ สว. ถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ ถ้ารับหลักการนี้ สว. จะถูกลดข้อครหาว่าเลือกธงทางการเมืองที่มีก่อนหน้านี้

ส่วนกรณีข้อสงสัยคุณสมบัติ นายพิธา ต่อการถือหุ้นสื่อ ถ้ารับหลักการไปก่อน ไม่มีอะไรที่ทำให้ สว. เสียหาย แต่ถ้าเส้นทางของนายพิธาถึงทางตันจากเรื่องนี้ ไม่ใช่หน้าที่หรือความผิด สว. ดังนั้น สว. มีหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ควรประวิงเวลานำเรื่องนี้มาประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากสาระสำคัญที่ สว. ไม่สบายใจต่อพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 มากกว่า

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต ยังกล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรี ที่ปล่อยผ่านโลกโซเชียลว่า น่าจะเป็นโผหลอกเพื่อโยนหินถามทาง คือ การปล่อยโผเป็นลักษณะทางการเมืองยืนยันว่า รัฐบาลนายพิธา จะต้องเกิดขึ้น เหมือนทุกคนเล่นเกมโดยไม่ได้สนใจว่า สว. จะโหวตเลือกนายพิธาหรือไม่ หรือคุณสมบัตินายพิธาจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นในอนาคต เป็นการยืนยันในหลักการว่า รัฐบาลพรรคก้าวไกล จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นแล้ว เหมือนการทำเอ็มโอยูร่วมกัน ล็อกเป้าว่าทุกพรรคต้องสนับสนุนนายพิธา สนับสนุนพรรคก้าวไกล

ส่วนประเด็นข่าวลือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะวางมือทางการเมือง และเปิดทางให้ สส. เข้าพรรคเพื่อไทยนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต กล่าวแสดงความเห็นว่า น่าจะเป็นการปล่อยข่าวลือ เพื่อให้เกิดความระแวงระหว่างพรรคร่วมด้วยกัน ซึ่งตอนนี้มองว่า คงไม่มีพรรคใดกล้าเล่นเกมนี้ เนื่องจากส่งผลต่อคะแนนนิยมลดลง

นอกจากนี้ ยังฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลว่า ต้องใช้วุฒิภาวะทางอารมณ์ แบ่งปันข้อมูลอย่างมีสติ ลดราวาศอกในโซเชียลมีเดียอย่างมีเหตุมีผล เพราะบางเรื่องหากไม่ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านก็อาจจะสูญเสียโอกาส อย่างเช่น การปฏิเสธพรรคชาติพัฒนากล้า ทำให้เห็นว่า อารมณ์ความร้อนแรงของคนภักดีต่อพรรคก้าวไกล ที่ยึดโยงผูกพันต่ออุดมการณ์ทางการเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ขณะเดียวกัน บางครั้งการเมืองต้องรู้จักให้อภัย เช่น กรณี 2 เสียง ของพรรคชาติพัฒนากล้า ทั้ง 2 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ นายกรณ์ จาติกวนิช แต่เป็นสายตรงของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ถ้าแยกแยะความรู้สึก สร้างอำนาจต่อรองให้พรรคก้าวไกลได้ จะมีค่ามากกว่า

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark