ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

โอฬาร ชี้ประธานสภาฯ เปิดช่องให้มีนายกฯ คนนอก

เช้านี้ที่หมอชิต - อาจารย์โอฬาร ดึงสติ อย่าไปมัวโฟกัสอยู่ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว แต่มองว่าจุดเปลี่ยนทางการเมืองคือตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ใครจะคว้าไป ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะเปลี่ยนเกมการเมืองได้อย่างไร

รองศาสตราจารย์ ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มองว่า ตอนนี้ประเด็นสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่ปัญหาเรื่องของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะอาศัยเสียงฟัง สส. หรือ สว. ก็ตาม แต่ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง นั่นก็คือ ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนี้ไปต้องวัดใจกัน ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น มีความสำคัญที่จะเป็นคนกำหนดวาระในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และจะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญ

อาจารย์โอฬาร มองว่า ถ้าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลก็จะสามารถคุมเกมเรื่องของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ นั่นก็คือ จะให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นบัญชีของพรรคก้าวไกล จนกว่าจะหมดวาระหรืออายุของสมาชิกวุฒิสภาในเดือนพฤษภาคม ปี 2567

แต่ถ้าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคเพื่อไทย เกมการเมืองก็จะเปลี่ยน คือ ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคเพื่อไทย และไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มาจากบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกลได้ ประธานสภาก็มีสิทธิที่จะเสนอให้โหวตเลือกบัญชีรายชื่อจากพรรคลำดับที่ 2 คือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย 3 รายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน, ชัยเกษม นิติสิริ

แต่จะทำให้พรรคเพื่อไทยเปลืองตัว เพราะจะส่งผลต่อการเลือกตั้งในสมัยหน้า ที่จะทำให้สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ไม่ต่างจากชะตากรรมของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางเลือกที่ อาจารย์โอฬาร มองว่า จะเป็นไปได้มากสุดคือตำแหน่งประธานสภา จะเป็นของพรรคเพื่อไทย และจะเปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีจากคนนอก ตามรัฐธรรมนูญ

โดยรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 272 กำหนดว่า หากหลังการเลือกตั้ง รัฐสภาไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรี จากรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่พรรคการเมืองเสนอไว้ได้ ให้สมาชิกรัฐสภาไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ 500 คน จากจำนวนเต็ม 750 คน ลงมติเพื่อเปิดทางให้เสนอชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เป็นช่องทางในการเสนอให้ใครก็ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนกำหนดเกมการเมืองในวาระการประชุม และประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีมาจากคนนอก โดยพรรคก้าวไกลที่มี สส. 151 เสียง จะถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน และพรรคที่เหลือก็จะเจรจาเก้าอี้รัฐมนตรี รวมถึงจัดตั้งคณะรัฐมนตรีร่วมกัน

ทั้งหมดนี้ อาจารย์โอฬาร มองว่า จะสมประโยชน์กันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถ้าออกมาในรูปแบบนี้ อาจารย์โอฬาร มองว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะมีความชอบธรรมมากขึ้น และมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้เก้าอี้ สส.ทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ แบบถล่มทลาย หรือชนิดที่เรียกว่า แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน หรือ ส้มทั้งแผ่นดิน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark