ตรวจค้นที่พัก ไอ้เอ็ม เคยอยู่กับเมีย 2 คน เพื่อนบ้าน-คนดูแลตึก แฉพฤติกรรม เมียชอบเก็บตัว ดูหวาดระแวง

ตรวจค้นที่พัก ไอ้เอ็ม เคยอยู่กับเมีย 2 คน เพื่อนบ้าน-คนดูแลตึก แฉพฤติกรรม เมียชอบเก็บตัว ดูหวาดระแวง จุดแรกที่หอพักซอยพหลโยธิน 50 เพื่อนบ้านเห็นลูกสาว 1 คน มีผ้าพันแผลที่มือ พ่ออ้างต้มมาม่าแล้วถูกน้ำร้อนลวก ส่วนที่เป็นอะพาร์ตเมนต์ ภายในซอยพหลโยธิน 65 ผู้ดูแลตึกบอกวันย้ายออกดูรีบเร่ง ไม่แจ้งล่วงหน้า

วันนี้ (21 ก.ย.66) เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองกับการสืบสวนนครบาล 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่พักที่นายเอ็ม เคยพักอยู่กับอดีตภรรยาแต่ละคน รวม 4 จุด โดยจุดแรก เป็นอะพาร์ตเมนต์ ภายในซอยพหลโยธิน 65, จุดที่ 2 อะพาร์ตเมนต์ ในซอยพหลโยธิน 69, จุดที่ 3.แมนชันในซอยพหลโยธิน 71 พื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และ จุดที่ 4 ตึกภายในซอยพหลโยธิน 50

โดยจุดที่ 1 ซึ่งเป็นที่พักของนางสุนัน (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางดา อายุ 65 ปี แม่บ้าน เปิดเผยว่า ตนแทบจะไม่เคยเห็นหน้าของนายเอ็ม และไม่เคยเจอลูกนายเอ็ม แต่ทราบว่านายเอ็มอาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้กับผู้หญิงผมยาวราว 3 เดือน โดยตนเคยพูดคุยกับนายเอ็ม 1 ครั้ง เนื่องจากผู้จัดการหอพักฝากตนไปแจ้งวิธีการชำระค่าเช่าห้องพักกับนายเอ็ม แต่นายเอ็มทำทีไม่พอใจ ส่วนพฤติกรรมของนายเอ็มจะไม่เคยสุงสิงกับใคร มักเก็บตัวอยู่ในห้อง เมื่อตนเห็นข่าวก็รู้สึกตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าลงมือฆ่าลูกได้อย่างไร

จากการสอบถามผู้ดูแลตึก ทราบว่าสองผัวเมียคู่นี้เพิ่งเข้ามาเช่าอยู่ระหว่างเดือน เม.ย.ถึง ก.ค.ที่ผ่านมา แค่ 2 คน ไม่มีลูกและไม่เคยเห็นลูก ลักษณะเหมือนหนีหนี้ รีบเข้ามาติดต่อขอเช่า โดยตอนแรกจะไม่เปิดให้เช่า เพราะไม่มีที่จอดรถ แต่ทั้งคู่ก็ดึงดันจะพักให้ได้ ขอไปจอดรถที่อื่นก็ได้ ส่วนตัวก็ไม่ค่อยพูดคุยกับผัวเมียคู่นี้ แต่ทราบว่านายเอ็มทำงานรับเหมาก่อสร้าง ส่วน น.ส.สุนัน อ้างว่าทำงานดูแลคนป่วย โดย น.ส.สุนัน ชอบแต่งตัวปิดหน้าตาขึ้นตึก จนต้องบอกให้เปิดหน้า และหวาดระแวงตลอดเวลา ตระหนี่มาก ซื้อไข่ใบเดียวต้องคอยถามสามี ส่วนนายเอ็มดูปกติดี และเมื่อถึงเวลาย้ายออกทั้งคู่ก็ยังเร่งรีบ โดย น.ส.สุนัน อ้างว่าได้งานที่ จ.กำแพงเพชร ต้องรีบกลับ ไม่แจ้งล่วงหน้า ก่อนทำความสะอาดห้องจนเนี้ยบ ซึ่งทั้งคู่ได้ขนถุงดำเป็นเสื้อผ้าผู้ใหญ่เก่าๆ กับเศษกล่องกระดาษออกมาช่วงกลางวัน อย่างไรก็ตาม ผู้เช่าใหม่เพิ่งย้ายเข้ามาได้ 3 วันนี้ แต่ก็มีข่าวจนแทบไม่ได้พักผ่อนต้องย้ายไปห้องอื่นก่อน

ส่วนจุดที่ 4 นายเอ็ม และน.ส.เจษฎาเคยพักอยู่ด้วยกัน และเป็นจุดที่นายเอ็มระบุว่า ด.ช.เอ เสียชีวิต ปี 56, ด.ช.บี เสียชีวิต ปี 59 และ ด.ช.ซี เสียชีวิต ปี 61 จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ระบุว่า ครอบครัวนี้ย้ายเข้ามาพักอาศัยตั้งแต่ก่อนวิกฤตโควิด 19 ประมาณปี 2560-2561 ที่ผ่านมาก็เห็นทั้งคู่เดินไปเดินมา และทักทายกันตามปกติ ซึ่งนายเอ็มก็พูดจาทักทายดี ไม่มีอาการฉุนเฉียว หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้เห็น รวมถึงที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเด็ก 4-5 คนมาก่อน เห็นเพียงเด็กหญิงที่เดินอยู่กับแม่เป็นประจำเท่านั้น แต่จะเดินฝั่งตรงข้ามเสมอ โดยแม่เด็กเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร และมักจะหลบตาผู้คนเสมอ มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่แม่ของเด็กเดินมาขอให้แฟนตนไปรับตัวนายเอ็มที่ห้างสรรพสินค้ากลับมาส่งยังที่พักเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเคยเห็นที่แขนของเด็กหญิง มีผ้าพันแผลพันรอบ เมื่อสอบถามไปยังพ่อของเด็กก็ได้คำตอบว่า ลูกสาวต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และถูกน้ำร้อนลวกแขนจนบาดเจ็บ แต่รอยแผลอื่นตนไม่เคยเห็น เพราะตัวเด็กหญิงก็จะแต่งตัวมิดชิด ใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายตลอดเวลา และครั้งหนึ่งเด็กหญิง เคยเข้ามาขออาหารตน เมื่อตนจะพาไปหาอาหาร อีกฝ่ายก็บอกว่าอยากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตนจึงพาไปซื้ออาหารและนมให้รับประทาน แต่ทางพ่อกับแม่ของเด็กไม่รู้ และเมื่อนายเอ็มรู้เรื่องก็บอกกับตนว่าจะจ่ายเงินให้ แต่ตนปฏิเสธเพราะถือว่าซื้ออาหารให้หลานกิน

ส่วนตัวไม่ทราบว่าทั้งสองคนย้ายออกไปเมื่อใด เนื่องจากช่วงที่ทั้งคู่ย้ายออกไปเป็นช่วงที่เกิดโควิด 19 จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครสนใจ และเมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะแต่ก่อนก็มีการพูดคุยกับนายเอ็มบ้าง ไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้