ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

ความตายไม่เคยเลือกเวลา อุทาหรณ์ชีวิต คนสำคัญในที่ทำงาน เมื่อป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย


เพจหมอคนสุดท้าย ถ่ายทอดเรื่องราวอุทาหรณ์ชีวิตของคนที่คิดว่าตัวเองสำคัญต่อที่ทำงาน อาจารย์มหาวิทยาลัย วัย 50 ปี มะเร็งระยะสุดท้าย ช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังก้าวหน้าในตำแหน่งวิชาการ โรคลุกลาม ดื้อยา ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าย้อนเวลากลับได้ จะไม่ทุ่มเทขนาดนี้ จะดูแลตัวเองดีกว่านี้ ไม่ใช่ให้ทำงานน้อยลงหรือไม่เต็มที่ แค่ต้องไม่ลืมกลับมาดูแลใจของเรา เพราะความตายไม่เคยเลือกเวลา

วันนี้ (24 ก.ย.66) เพจหมอคนสุดท้าย กลับมาถ่ายทอดอุทาหรณ์ชีวิต จากช่วงเวลาระยะสุดท้ายในชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยข้อความตอนหนึ่งที่ถ่ายทอดผ่าน เพจหมอคนสุดท้าย ระบุว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่หมอเปลี่ยนที่อยู่และที่ทำงานใหม่ มีเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องจัดการมากมาย เมื่อมีวันหยุดที่ได้พักจริง ๆ ครึ่งวัน ทำให้กลับมานึกถึงคนไข้คนหนึ่ง ที่หมอได้มีโอกาสเข้าไปดูแลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

คนไข้ เป็นผู้ป่วยเพศชาย อายุประมาณ 50 ปี เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังก้าวหน้าในตำแหน่งวิชาการ เขาพยายามอย่างหนักในการทำงานและสร้างผลงานวิชาการมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่ง “ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย” ทุกอย่างเหมือนพังทลายลงหลังได้ยินหมอแจ้งข่าวร้าย แม้เขาพยายามอยู่อย่างมีความหวัง และต่อสู้กับโรคร้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ต้องสู้ ต้องรักษาได้ ต้องดีขึ้น” แต่ตอนนี้โรคลุกลาม ดื้อต่อยา และไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ความหวังที่จะมีชีวิตต่อไปพังลงอีกครั้ง”

“มียาฉีดให้ตายไปเลยไหมครับ?” เป็นคำถามที่คนไข้ถามตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับหมอ หมอได้แต่ถามเขาว่า เพราะอะไรอาจารย์จึงอยากให้ฉีดยาให้ตาย คำตอบที่ได้รับคือ “ทรมานครับ ไม่อยากอยู่แบบปวดทรมานแบบนี้ อยากตาย ๆ ไปเลย ไม่อยากเป็นภาระ ไม่อยากอยู่ติดเตียงทำอะไรเองไม่ได้แบบนี้” เมื่อคนไข้พูดออกมาแบบนี้ ภรรยาที่เฝ้าดูแลอยู่ถึงกับพูดให้กำลังใจว่า ไม่ได้เป็นภาระเลย เต็มใจดูแล”

จากคนวัยทำงานที่แข็งแรง จากคนที่ทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเอง วันหนึ่งกลายเป็นผู้ป่วยระยะท้ายที่ต่องพึ่งพาคนอื่น หมอรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดนั้น  หมอกับทีมแพทย์ให้คำมั่นว่า จะช่วยดูแลบรรเทาความปวดให้อาจารย์สุขสบายมากที่สุด

นอกจากนี้ จากการที่ได้พูดคุยกับคนไข้ รับรู้ได้ว่า ความรู้สึกเป็นภาระ จริง ๆ คือเป็นห่วงภรรยา คนไข้บอกว่า บางทีหงุดหงิด พูดไม่ดีกับเขา สงสารเขาที่ต้องทนกับเรา อยากขอบคุณและขอโทษ คำพูดของคนไข้ทำให้หมอรับรู้ว่าจริง ๆ แล้ว อาจารย์ทั้งสองรักกันมาก

คนไข้ยังได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตว่า ครอบครัวลำบาก จึงต้องพยายามเรียนให้ดี มันเปลี่ยนชีวิตเราครอบครัว พ่อแม่สบายเพราะเรามีงานทำที่ดี คนไข้พูดออกมาทั้งน้ำตา บอกว่าคิดถึงพ่อกับแม่ ตอนนี้แกไม่อยู่แล้ว ไม่มีความรู้สึกอะไรที่ติดค้าง พ่อแม่ภูมิใจในตัวเรา ที่ร้องไห้เพราะคิดถึงเฉย ๆ ถ้าย้อนกลับไปคงไม่ทุ่มเทขนาดนี้ ที่ผ่านมาเราทุ่มเทแต่กับงาน ทำทุกอย่างเพื่อความก้าวหน้า คิดว่างานทุกอย่างต้องมีเรา คิดว่าเราคือคนสำคัญขององค์กร เขาขาดเราไม่ได้ แต่ดูตอนนี้สิ เราทำอะไรไม่ได้ ไม่มีเราทุกอย่างก็ไปได้

“คนไข้บอกว่า ภูมิใจในตัวเองถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ จะไม่เครียด ทำเท่าที่เราไหว วันนี้เราเข้าใจมากขึ้นว่าโลกนี้ถึงไม่มีเราก็อยู่ได้ อยากให้คุณหมอและทุก ๆ  คนทำเท่าที่ไหว ไม่เครียด ไม่มีเราก็มีคนทำแทนอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราจะตั้งใจทำงานน้อยลง ทุกองค์กรล้วนต้องการคนที่ตั้งใจ ทุ่มเท เต็มที่ แต่ต้องไม่ลืมกลับมา “ดูแลใจของเรา” ความตายไม่เคยเลือกเวลา วันหนึ่งทุกคนก็ต้องจากโลกนี้ไป วันหนึ่งก็…ไม่มีเรา และโลกใบนี้จะยังคงอยู่ได้…แม้ไม่มีเราอยู่”

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark