เบียร์ เดอะวอยซ์ โพสต์ประณามมือปล่อยคลิป

สนามข่าว 7 สี - จากกรณีที่มีมือดีนำคลิปของ "เบียร์ เดอะวอยซ์" นักร้องสาว ไปเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย จนทำให้เจ้าตัวถึงกับจิตตกกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น พร้อมกับขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้

ย้อนความกันสักนิด คือ นางสาวภัสรนันท์ อัษฎมงคล หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ เธอมีภาพและคลิปวิดีโอหลุดเมื่อไม่นานมานี้ ช่วงแรก ๆ ชาวเน็ตก็สวมบทบาทเป็นนักสืบ เพื่อเสาะหาว่า "แฟนเก่า" คนไหน ที่เป็นคนปล่อยภาพ ทั้งยังมีหลายคนมาโจมตีผู้เสียหายอย่างเบียร์ด้วยเช่นกัน มีการใช้คำพูดละลาบละล้วง และติเตียนเธอที่ไม่ระมัดระวังตัว ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งออกมาปกป้องเบียร์ บอกว่าเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะคนที่เอาภาพมาปล่อยหรือไม่

ซึ่งล่าสุด เบียร์ก็ออกมาโพสต์ข้อความยอมรับว่า รูปภาพและคลิปวิดีโอที่หลุดออกมานั้นเป็นเบียร์จริง ๆ แล้วรู้ด้วยว่าใครเป็นคนปล่อย ที่สำคัญคือ ไม่ใช่คนในวงการที่ทุกคนคาดเดากัน ขอให้หยุดการโจมตีพวกเขาทั้งหมด และขอบคุณทุก ๆ ความเป็นห่วง เบียร์ซาบซึ้งมาก ๆ ช่วงหลายเดือนผ่านมานี้ เบียร์แต่งเพลงทำเพลงอยู่เงียบ ๆ เพื่อที่จะได้ปล่อยผลงานอย่างต่อเนื่อง ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะสามารถทำลายชีวิตที่เหลือของเบียร์ได้ มีหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน ส่งข้อความมาหา จึงอยากบอกว่าเราไม่ผิดนะคะ เราควรได้ใช้ชีวิตที่สดใสของเราต่อไป ส่วนมิจฉาชีพที่เอาคลิปมาปล่อย ควรโดนประณาม อย่าให้สังคมบิดเบี้ยวไปมากกว่านี้เลย ไม่ว่าเพศใดก็ไม่ควรมีใครตกเป็นเหยื่อทั้งนั้นค่ะ

ขณะที่เบียร์เองก็ตั้งข้อสังเกตว่า ภาพดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 96,000-105,000 บาท ซึ่งเป็นราคารูปภาพอย่างเดียว ถ้าเป็นคลิปวิดีโอจะมีราคาสูงมากกว่านี้

ส่วนความคืบหน้าทางคดี โดย "เบียร์ เดอะวอยซ์" ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ภายหลังการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้ขอหมายค้นบ้านพักของผู้ถูกกล่าวหา และได้ยึดโทรศัพท์มือถือ, ไอแพด, โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ มาตรวจสอบเพื่อหาหลักฐาน พร้อมกับเชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าไม่ทราบว่าภาพดังกล่าวหลุดได้อย่างไร

ทางด้าน พลตำรวจตรี อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า การโพสต์ หรือแชร์ภาพคลิปวิดีโอลามกในสื่อโซเชียล เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของคนแชร์หรือส่งต่อ ก็มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เช่นเดียวกัน

จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ว่า กรณีที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นอุทาหรณ์ว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าว แม้ช่วงเวลานั้นเกิดจากความยินยอมไว้เนื้อเชื่อใจ โดยไม่ได้มีการบังคับ แต่หากเกิดมีภาพเผยแพร่ออกไป ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง และหน้าตาของบุคคลนั้น และย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ไม่อาจที่จะแก้ไขได้