ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

ไข้หวัดใหญ่ น่าห่วง ปี 66 ป่วยแล้วเกือบ 2 แสนคน เตือนหน้าฝน ย้ำใส่หน้ากาก-ล้างมือ ป้องกันได้

ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ น่าห่วง  ปี 2566 ป่วยแล้วเกือบ 2 แสนคน เตือนหน้าฝน ทั้ง RSV -ไข้หวัดใหญ่ -โควิด ย้ำใส่หน้ากาก-ล้างมือ ป้องกันได้

วันนี้ 25 กันยายน 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2565 ประชาชนเลือกสวมหน้ากากอนามัยได้ตามความสมัครใจ พบว่าแนวโน้มของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ เพิ่มสูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนว่า การสวมหน้ากากอนามัยสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคติดเชื้อทางเดินหายใจได้อย่างดี

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โรคโควิด 19 ขณะนี้จะพบผู้ป่วยลดลงต่อเนื่อง แต่สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่  1 มกราคม - 16 กันยายน 2566 มีผู้ป่วย 185,216 ราย อัตราป่วย 279.9 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 0.002 เฉพาะสัปดาห์ที่ 10-16 กันยายน มีผู้ป่วยเพิ่มมากกว่า 12,000 ราย ซึ่งสูงกว่าจำนวนผู้ป่วยในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 และค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ซึ่งได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมทีมสอบสวนควบคุมโรคเพื่อรองรับการระบาดแล้ว ตามนโยบายของ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงของฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งโรคหลักๆ ที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือ โรคโควิด 19 อาการมักมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย อาจมีหายใจลำบาก, โรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ ไอแห้ง น้ำมูกใส เบื่ออาหาร และโรค RSV จะมีไข้ ไอจาม มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ซึ่งการติดต่อของทั้ง 3 โรคเหมือนกัน คือ การไอ จาม สัมผัสละอองฝอยน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อมีอาการป่วยของโรคทางเดินหายใจ หรือเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด ต้องสวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูกให้มิดชิดเมื่อไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก รวมถึงล้างมือบ่อยๆ เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจเหล่านี้ นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองดูแลสังเกตอาการบุตรหลานที่เป็นเด็กนักเรียน หากเด็กป่วยมีอาการทางเดินหายใจแนะนำให้หยุดพักอยู่บ้านเพื่อดูแลรักษา ติดตามอาการ และไม่ไปแพร่เชื้อต่อที่โรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก ส่วนโรงเรียน ขอให้จัดระบบการคัดกรองอาการทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เพื่อแยกเด็กไม่ปะปนกับเด็กอื่นๆ และพิจารณาปิดห้องเรียนเมื่อพบเด็กป่วยหลายๆ ราย ติดต่อกัน

BUGABOO NEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก  thaigov.go.th

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark