ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : พิรุธ อบจ.สตูล จัดจ้าง ศูนย์ฯ นักท่องเที่ยว น้องชายถือหุ้นใหญ่

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ตามต่อกับขั้นตอนการดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว งบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ที่ส่อว่าจะไม่โปรงใส ซึ่งล่าสุด พบประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของผู้รับจ้างซึ่งเป็นของน้องชายของนายก อบจ.สตูล ตามต่อกับคุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์ 

แม้จะมีคำอธิบายถึงสาเหตุความล่าช้า ในการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 7 ปี และสาเหตุว่าทำไมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จึงเลือกที่จะคงการว่าจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติเจริญชัยการโยธา ไว้ ทั้งที่ไม่สามารถดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามสัญญาได้ โดยอ้างถึงประวัติการทำงาน ความประสงค์ต่อสัญญา และการยอมเสียค่าปรับ ที่ขณะนี้มีตัวเลขเกินกว่าครึ่งของค่างวดงานที่จะได้รับ จนน่าสังเกตว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างหรือไม่

คอลัมน์หมายเลข 7 ยังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า รายชื่อผู้ถือหุ้นและมีอำนาจใหญ่ในห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติเจริญชัยการโยธา ซึ่งเป็นผู้รับจ้างโครงการนี้ คือ นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ ซึ่งมีสถานะเป็นน้องชายของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล

กรณีนี้จึงน่าสนใจว่า ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง วงเงินเกือบ 30 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ มีสัมพันธ์ฉันเครือญาติใดเข้ามาเป็นตัวแปร ทำให้เกิดการได้งานนี้หรือไม่

หลังปรากฏข้อมูล คอลัมน์หมายเลข 7 พยายามโทรศัพท์เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงอีกด้านกับนายสมเกียรติ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่การตรวจสอบกับสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดสตูล ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้อง หลังพบความผิดปกติ

มีหลากหลายประเด็นที่ยังเป็นข้อกังขา รอคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นปมเครือญาติ มีส่วนสัมพันธ์กับการได้มาซึ่งโครงการในพื้นที่หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบของคอลัมน์หมายเลข 7 ยังพบโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล อีกจำนวนไม่น้อย ที่มีห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติเจริญชัยการโยธา เป็นผู้รับจ้างด้วยวิธีพิเศษทั้ง ๆ ที่โครงการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ยังไม่แล้วเสร็จ ไปจนถึงการขยายเวลาการก่อสร้างที่ยาวนานถึง 7 ปี แต่จนถึงขณะนี้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ทุ่มเงินงบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท ก็ยังเปิดให้บริการไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีคำถามถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ในพื้นที่ด้วยว่า เคยทำหน้าที่ตรวจสอบความคุ้มค่าของงบประมาณที่เสียไปหรือไม่ เพราะในระยะหลัง เราได้แต่เห็นบทบาทของ สตง. ที่ทำหน้าที่เหมือนนักบัญชี มากกว่าการป้องปรามตรวจสอบเพื่อรักษาเงินแผ่นดิน ที่เป็นเงินของประชาชนทั้งชาติ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark