ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

จ้างชาวกัมพูชา มาปล้น หลังชายวัย 51 แอบนำเงินไปให้กิ๊กจนหมด แล้วกลัวเมียจับได้

จ้างกัมพูชาปล้น

กุเรื่อง! จ้างชาวกัมพูชา มาปล้น หลังชายวัย 51 แอบนำเงินไปให้กิ๊กจนหมด แล้วกลัวเมียจับได้ สุดท้ายถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จฯ เดินคอตกเข้าห้องขัง

คนไทย ถูกชาวกัมพูชาปล้น เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่สื่อสาร สภ.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว รับแจ้งเหตุด่วนว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.วันนี้ (6 ต.ค.) มีผู้เสียหายและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจ้งว่า มีคนไทยถูกชาวกัมพูชา 3 ราย บุกเข้าปล้นเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นบาท เหตุเกิดที่ ม.10 ซอย 2 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น พบนายนิคม อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหาย ให้การว่า เวลาประมาณ 04.30 น. มีชายชาวกัมพูชาจำนวน 3 คน เข้ามาปล้นทรัพย์ที่บ้าน โดยคนร้ายได้จับมัดแขน มัดขา ติดไว้กับโซฟาไม้ บริเวณใต้ถุนชั้นล่างของบ้าน โดยใช้เชือกผูกเปลมัดและใช้ผ้าอุดปากไว้ และได้เอาเงินสดในกระเป๋าสะพายไป 800 บาท

นอกจากนั้น นายนิคม ยังให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า กัมพูชาคนร้ายหนึ่งใน 3 คน ได้ใช้เครื่องมือสแกนบัตรอิเล็คทรอนิกส์ กดเงินในบัญชีออกไป เป็นเงิน 18,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมทั้งสอบถามชาวบ้านข้างเคียง ให้การว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้ยินและไม่พบเห็นเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าปล้นทรัพย์ของนายนิคม แต่อย่างใด

ตรวจสอบภายในบ้านพบ นางหมวยแก้ว ชาวกัมพูชา ภรรยาของนายนิคม นอนพักอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน สอบถามปากคำให้การว่า ไม่ได้ยินเสียงและไม่มีเหตุการณ์คนร้ายเข้าปล้นทรัพย์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำตัวนายนิคม มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหาด ถึงเหตุการณ์ สาเหตุ แรงจูงใจและเงินในบัญชี 18,000 บาท ที่คนร้ายได้สแกนออกไป ซึ่งนายนิคม ยืนยันว่า มีเงินอยู่ในบัญชีจริง จากนั้นจึงได้นำนายนิคม ไปกดเช็คยอดที่ตู้เอทีเอ็ม พบมียอดคงเหลือ 47 บาท และไม่มียอดเงินตามบัญชีที่กล่าวอ้าง

พ.ต.ท.เอื้อธนอิศม์ ศรีสมบูรณ์ รอง ผกก.สส. เผยว่า ตำรวจได้นำตัวนายนิคม มาเค้นสอบอย่างละเอียด และให้การไม่ตรงกับภรรยา กระทั่งช่วงเวลา 09.00 น.วันนี้ นายนิคม ได้ให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเป็นผู้แต่ง กุเรื่องขึ้นมา เพื่อหลอกภรรยา เนื่องจากตนได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จนหมดแล้ว โดยนำไปให้กับกิ๊ก ซึ่งเป็นช่างเสริมสวยอยู่ที่เมืองสระแก้ว และมีญาติมาขายของที่ตลาดศรีเพ็ญ(เขาดิน) ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก และพูดคุยจีบกันมานานประมาณ 1 ปี และได้ขอเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ครั้งแรก 2,000 บาท ,ครั้งที่ 2 ให้ไปอีก 3,000 บาท ล่าสุด เพิ่งให้ไปอีก 5,000 บาท รวมเงิน 10,000 บาท

จึงทำให้ไม่มีเงินเหลือไปจ่ายค่าจ้างรถไถไร่มัน ที่ต้องจ่าย 6,000 บาทในวันพรุ่งนี้ พร้อมกลัวว่าภรรยาจะรู้เรื่อง จึงกุเรื่องขึ้นว่าถูกปล้นโดยนัดแนะกับชาวกัมพูชา 3 ราย ที่รู้จักกันและเคยข้ามมาทำงานรับจ้างฝั่งไทย ให้ทำทีเป็นคนร้ายเข้ามาปล้นและจับมัดไว้กับโซฟาไม้ แล้วใช้ผ้าอุดปากไว้ ก่อนหลบหนีข้ามไปฝั่งกัมพูชา โดยให้ค่าจ้างคนละ 100 บาท

ด้าน นายนิคม กล่าวว่า สาเหตุที่ว่าจ้างชาวกัมพูชาให้มาทำทีปล้น เพราะนึกอะไรไม่ออก เห็นพวกนี้มาก็คิดได้พอดี โดยวางแผนให้ แล้วให้ค่าจ้างไป ส่วนเงินที่หายไปนั้น ตนเองเบิกไปให้กิ๊ก แล้วมาแจ้งตำรวจว่าโดนปล้นทรัพย์ไป 1 หมื่นกว่าบาท โดยหญิงที่เป็นกิ๊กที่ว่ารู้จักกันทางเฟซบุ๊ก โดยคุยกันผ่านทางแชท ซึ่งตนเองเล่นเฟซแล้วทักไปหาเค้า คุยกัน เธอสวย และขอเงินใช้บอกว่า ไม่มีค่าโน่นค่านี่ ค่าน้ำ ค่าไฟ รายได้ที่ทำร้านเสริมสวยไม่พอใช้ จึงฝากเงินสดหลานเค้า ที่ขายของที่ตลาดศรีเพ็ญไปให้

โดยตัวเธอทำงานอยู่ที่สระแก้วไม่รู้อยู่ตรงไหน คุยกันมาประมาณ 1 ปี ให้เงินไปรวม 1 หมื่นบาท จำนวน 3 ครั้ง เวลาขาดเหลือก็จะทักแชทมาหา ครั้งแรก 2,000 , 3,000 และล่าสุด 5,000 บาท จนนำมาสู่การกุข่าวแจ้งความว่า ถูกปล้น ซึ่งวันนี้นัดหมายกับเจ้าของรถไถไร่ว่า จะต้องมาจ่ายวันนี้ ตอนนี้ไม่มีเงิน ไม่มีทางออกจริง ๆ จึงหาทางออกด้วยวิธีนี้ ไม่คิดว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะโทรแจ้งความตำรวจทันที เพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง ตำรวจก็คิดว่า เป็นเรื่องจริง จึงลงพื้นที่กันจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนและบันทึกปากคำเสร็จ ร.ต.อ.สมปอง อินทร์แก้ว รอง สว.สส.สภ.คลองหาด ร้อยเวร สภ.คลองหาด ได้นำตัวนายนิคม ฯ ไปลงบันทึกประจำวัน พิมพ์ลายนิ้วมือ และแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน แจ้งความเท็จกับพนักงานสอบสวนฯ พร้อมกับนำตัวนายนิคมฯ เข้าห้องคุมขัง สภ.คลองหาด ทันที เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark