ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

ลุงเซียะ คนพิการสู้ชีวิต เก็บขยะริมทางขาย หาเงินใช้หนี้ที่กู้มาซื้อที่ดินปลูกบ้าน


“ลุงเซียะ” คนพิการสู้ชีวิต เก็บขยะริมทางขาย หาเงินใช้หนี้ที่กู้มาซื้อที่ดินปลูกบ้าน และมีจิตกุศล มักแบ่งเงินที่หามาได้ทำบุญอยู่เป็นประจำ วันนี้ ลุงเจอพระวัดป่าอุดรฯ ใจดี ช่วยปลดหนี้ให้

จากกรณีเพจพระลิน สุจิตโต โพสต์คลิปภาพและข้อความว่า “น่าสงสารชายพิการช้ำช้อน เก็บของเก่าหาเงินใช้หนี้กู้เงินมาชื้อบ้าน พระลิน สุจิตโต” เป็นพระอาจารย์วัดป่าดอนบ้านเทือน ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  โดยในคลิปชายพิการคนนี้ ขยัน สู้ชีวิต และมีจิตกุศล หาเก็บของเก่าขาย หาเงินใช้หนี้ที่กู้มาสร้างบ้าน ชอบทำบุญกับพระพุทธศาสนา ร่วมทำบุญกฐินที่พระอาจารย์เป็นเจ้าภาพ

และครั้งนี้ขอร่วมบุญสร้างพญานาค ซึ่งได้มอบเงินที่หาได้ 240 บาท ร่วมทำบุญ ก่อนที่พระอาจารย์จะสนองบุญช่วยเหลือ ด้วยการนำเงินที่ญาติโยมร่วมทำบุญกฐินมาช่วยปลดหนี้ให้จำนวน 3 หมื่นบาท หลังจากเป็นหนี้มานาน 10 กว่าปี ถือเป็นการทำบุญกับพระ ทำบุญกับวัด แล้วก็นำบุญนั้นมาทำกับคนที่ยากไร้ ขออนุโมทนา สาธุบุญกุศลที่ได้ร่วมกันทำในครั้งนี้มาช่วยปลดหนี้ให้จำนวน 3 หมื่นบาท หลังจากเป็นหนี้มานาน 10 กว่าปี

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทงไปยังวัดป่าดอนบ้านเทือน ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่มีชาวบ้าน ญาติโยม และพระภิกษุ กำลังช่วยกันเตรียมงานบุญกฐิน และพิธีบวงสรวงรูปเหมือนองค์ปู่ศิลินนาคาราช ในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน นี้ โดยพบกับพระอาจารย์ลิน สุจิตโต อายุ 25 ปี ชาวบ้านหลักซาว แขวงบริคำไซ สปป.ลาว พระลูกวัดป่าดอนบ้านเทือน ที่เดินธุดงค์จาก สปป.ลาว มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ได้ 1 พรรษา และมีญาติโยมให้ความเลื่อมใสศรัทธา ในความเมตตาของท่าน และมาร่วมสมทบทำบุญกฐิน และสร้างองค์ปู่ศิลินนาคราช กันเป็นจำนวนมาก

พระอาจารย์ลิน สุจิตโต เล่าว่า ชายพิการที่ปรากฏอยู่ในคลิปภาพ ในเพจของอาตมานั้น ชื่อลุงเซียะ อายุ 54 ปี ชาวบ้านพรานเหมือน ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยรู้จักกันเมื่อประมาณ 5-6 เดือน ที่ผ่านมา ขณะอาตมารับกิจนิมนต์ในตัวเมืองอุดรธานี ขณะเดินทางกลับวัด พบลุงเซียะฯ สวมเสื้อสีแดงเดินถือถุงปุ๋ย และสะพายย่าม อยู่ริมถนนบ้านดงไร่-อ.บ้านผือ กม.ที่ 7 ระหว่าง บ.พรานเหมือน-บ.ดู่ ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี เพื่อหาเก็บขยะรีไซเคิลไปขาย อาตมาจึงให้โยมคนขับรถจอดรถ และได้ลงไปสนทนากับนายเซียะฯ

ทราบว่าเขาพิการมาตั้งแต่กำเนิด และเป็นหนี้กู้ยืมธนาคารมาซื้อที่ดิน จำนวน 60,000 บาท เพื่อปลูกบ้านพักอาศัย ขณะนี้ใช้หนี้ไปบางส่วนแล้ว และคงเหลืออยู่ 3 หมื่นบาท และต้องเดินเก็บขวดน้ำ หรือขยะรีไซเคิลไปขาย เพื่อเก็บเงินใช้หนี้ธนาคารที่กู้ยืมต่อไปอีก และไม่รู้ว่ากี่ปีหนี้ถึงจะหมด จึงเกิดความเมตตาและสงสารเขามาก และให้ปัจจัยส่วนตัวที่เก็บไว้กับโยมคนขับรถไปจำนวนหนึ่ง พร้อมกับให้ข้าวสารอาหารแห้งนำไปไว้กินที่บ้าน ที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ถัดมา 2 เดือน ก็เจอกับเขาอีกตรงจุดเดิมอีก อาตมาก็ได้ให้ปัจจัยเขาไปซื้อปูนซีเมนต์มาเททางขึ้นบ้าน เพื่อสะดวกในการเข้าออกบ้าน พร้อมกับให้ข้าวสารอาหารแห้งไปอีกเช่นเคย”

พระอาจารย์ลินฯ เล่าต่อว่า กระทั่งครั้งที่ 3 ประมาณวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 อาตมาเดินทากลับมาจาก จ.อยุทยา เพื่อไปดูแบบการสร้างองค์ปู่ศิลินนาคราช ก็พบเขาเดินอยู่ที่จุดเดิม และจะเป็นช่วงบ่ายทุกครั้ง จึงจอดรถและเดินลงไปบอกบุญกฐินและสร้างองค์ปู่ศิลินนาคราชกับลุงเซียะ ทันทีที่เขาได้ยิน เขาได้ก้มลงกราบอาตมา เพราะเขาจำได้ และยกย่ามให้อาตมาดู มีเงิน 240 บาท เขาตั้งใจที่จะทำบุญด้วย อาตมาจึงเกิดความสงสารเป็นอย่างมาก ทั้งที่เขาเป็นคนพิการ และเป็นหนี้ธนาคาร

จึงอัดคลิปลงในเพจ เพื่อขออนุญาตญาติโยมที่โอนเงินมาทำบุญกฐินที่วัด เพื่อขอปลดหนี้ให้กับเขา 3 หมื่นบาท และให้ปัจจัยเขาไปไว้ใช้จ่ายอีก 1 หมื่นบาท รวม 4 หมื่นบาท เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนพิการสู้ชีวิต จึงไปรับเขาที่บ้านในวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พาเขาและพี่สาว เดินทางไปธนาคาร เพื่อปลดหนี้ทั้งหมดที่กู้ยืมมา เขาดีใจมากและพูดขึ้นมาว่า เขาหมดหนี้สินแล้ว ก่อนก้มลงกราบอาตมา จึงอยากฝากถึงพุทธศาสนิกชนว่า เงินเปรียบเสมือนพระเจ้า และอสรพิษ หากใช้ไม่เป็นชีวิตก็พัง เป็นหนี้สินเกิดทุกข์อย่างหนัก บางคนถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย บางคนมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ไม่มีศีลธรรม และไม่เคยสร้างบุญกุศลบุญบารมี ก็ไม่มีความสุข จึงต้องมีควบคู่กันไป ขอเจริญพร”

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักของลุงเซียะ ระหว่างทางพบลุงเซียะ สวมชุดสีแดง กำลังเดินถือถุงปุ๋ยเก็บขยะรีไซเคิลอยู่ริมถนนก่อนถึงบ้านดู่ ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี จึงจอดรถลงไปพูดคุย และเปิดภาพพระอาจารย์ลินฯ ในกล้องให้ดู เมื่อลุงเซียะเห็น ได้ยกมือไหว้เพราะจำได้ และพูดจับใจความได้บางตอน เนื่องจากลุงเซียะลิ้นไก่สั้นว่า พระอาจารย์คนนี้เป็นคนปลดหนี้ให้ตนเอง และถามหาว่าพระอาจารย์ลินฯอยู่ที่ใหน และยกมือไหว้ขอบพระคุณท่านมาก ที่ช่วยเหลือตน ต่อไปตนไม่มีหนี้แล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark