สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา
ประเด็นเด็ด 7 สี - ไปติดตามความคืบหน้าของการสู้รบในประเทศเมียนมาหลังจากการสู้รบยาวนานเข้าใกล้ 1 เดือนแล้ว
จากสถานการณ์สู้รบในเมียนมาระหว่างกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์และกองทัพเมียนมาในรัฐฉานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม และเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมากลุ่มชาติพันธุ์เปิดการโจมตีระลอกใหม่ในรัฐยะไข่ และปิดล้อมหลายพื้นที่ของรัฐสะกาย (Sagaing) ชิน มอญ กะฉิ่น รวมถึงรัฐกะเหรี่ยงอีกด้วย
จนถึงขณะนี้มีประชาชนอย่างน้อย 200,000 คนได้หลบหนีความรุนแรงออกนอกประเทศ นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นรวม 1.1 ล้านคนนับตั้งแต่รัฐประหารปี 2564 ซึ่งทำให้เมียนมาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม และความหายนะทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ เพื่อนบ้านอย่างจีนและอินเดียกำลังรับผู้ลี้ภัยหลายพันคน ทางการจีนรายงานว่าพลเมืองของตนถูกสังหารในการปะทะกัน และจีนกำลังช่วยเหลือชาวต่างชาติให้ออกจากเมียนมา และแจ้งให้พลเมืองของตนย้ายออกจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซีเอ็นเอระบุว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่มีพื้นที่ความขัดแย้งใหม่เกิดขึ้น และรัฐบาลทหารเมียนมาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างช้า ๆ ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส์ระบุว่าการต่อสู้ที่ยืดเยื้อจะทดสอบคลังแสงของทั้งสองฝ่ายและรัฐบาลทหารจะสูญเสียการควบคุมพื้นที่ชายแดนบางแห่ง แม้ว่าจะยังคงอยู่ในอำนาจจากส่วนกลางก็ตาม
การสู้รบในเมียนมา เริ่มขึ้นจาก กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) ที่ประกอบด้วยกกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ (MNDAA) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) ได้เริ่ม ปฏิบัติการ เท็น ทเวนตีเซเวน (1027) ซึ่งตั้งขึ้นตามวันที่ในการโจมตี เพื่อกำจัดเผด็จการทหารเมียนมา รวมถึงกำจัดกลุ่มอาชญากรออนไลน์ใกล้ชายแดนติดกับจีน ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ได้รับชัยชนะในหลายเมืองและทำลายอาวุธยุทโทปกรณ์ทางไปทหารมากกว่า 100 ชิ้น และถือเป็นความท้าทายร้ายแรงที่สุดต่อรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมานับตั้งแต่รัฐประหารปี 2564