ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

เจ้าอาวาสวัดหอบเงินกฐิน 7 ล้านบาท หนีเข้ากลีบเมฆ


คณะกรรมการวัดดังเมืองสุพรรณบุรีแจ้งความจับเจ้าอาวาส หลังหายตัวไปพร้อมเงินกฐิน 7 ล้านบาท และยังมีชาวบ้านเกือบ 40 คน สูญเงินกว่า 4 ล้าน หลังให้เจ้าอาวาสยืม

วันนี้ (21 พ.ย.66) จากการณี เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี หอบเงินกฐิน กว่า 7 ล้านบาท และยังยืมเงินจากชาวบ้านกว่า 30 คน ประมาณ 4 ล้านบาท ที่มาใช้ทะนุบำรุงวัดหนีหายไป ทำเจ้าหน้าที่การเงินของวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี  เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ที่วัดมีการทอดกฐินสามัคคี ได้ยอดเงินกว่า 7 ล้านบาท ต่อมาเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล ได้นำเงินไปฝากธนาคารสาขาสุพรรณบุรี เพราะปกติต้องนำเงินเข้าบัญชีของวัด

ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 17 พ.ย. ทางคณะกรรมวัดได้นำสมุดบัญชีไปปรับดูยอดเงิน ปรากฏว่าไม่มียอดเงินกฐินเข้าบัญชีวัด จึงพายามติดต่อเจ้าอาวาส แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เชื่อว่าเจ้าอาวาสน่าจะเอาเงินติดไปด้วย ทางคณะกรรมการวัดจึงได้แจ้งความ ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าอาวาสมาสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามนายฉลอง วงษ์จันทร์  เจ้าหน้าที่การเงินของวัด เปิดเผยว่า เจ้าอาวาสรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสมี 8 ปี ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินของวัดมาก่อน เป็นพระนักพัฒนา สร้างหอสวดมนต์ ปรับปรุงวัด ช่วงที่โรคโควิด 19 ระบาด ก็ช่วยสังคมนำศพมาเผาที่วัด ทำให้ชาวบ้านศรัทธา แต่มาปีนี้กลับหนีไปพร้อมเงินกว่า 7 ล้านบาท จึงอยากให้นำเงินกฐินมาคืน และชาวบ้านจำนวน 38 คนที่ถูกยืมเงินไปมากกว่า 4 ล้านบาท ก็อยากได้เงินคืน ตอนนี้ทางวัด มีหนี้ค่าไฟหมื่นกว่าบาท

ด้าน พ.ต.อ. ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดโดยละเอียด เส้นทางการเงินเข้าในบัญชีของวัดอย่างไร ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง อีกส่วนหนึ่งได้พยายามติดตามเจ้าอาวาส เพื่อมาให้การกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะจำนวนดังกล่าว พุทธศาสนิกชนนำมาทำบุญถวายวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ดังนั้นแต่ละวัดที่จะดำเนินการทอดกฐินหรือทำบุญ ขอให้วางมาตรฐาน แนวทางการควบคุม ให้มีความรัดกุมมากขึ้น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark