ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

สินบน 1 ล้าน ปมผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ตำรวจไม่ปฏิบัติตามระเบียบ


ปมสินบน 1 ล้าน ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษญ์ชาวเยอรมัน บิ๊กโจ๊กพบตำรวจไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ค้านประกัน สั่งตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา -หัวหน้าพนักงานสอบสวน

ความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาชาวเยอรมันที่ซื้อบริการเด็กหญิง อายุ 15 ปี ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเดินทางกลับไปเยอรมันและให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมันว่ามีการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ 1 ล้านบาท วันนี้ (6 ธ.ค.66) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผลการสอบสวนพบว่า ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา และหัวหน้าพนักงานสอบสวน ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“กรณีจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ แต่ไม่ได้แจ้งกองการต่างประเทศให้รับทราบ เพื่อให้แจ้งไปยังสถานทูตของประเทศนั้น ๆ ว่ามีพลเมืองมากระทำผิดในแผ่นดินไทย และไม่ได้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้เพิกถอนวีซ่าผู้ต้องหา ซึ่งตามปกติจะต้องดำเนินการ เพราะหากผู้ต้องหาได้ประกันตัว ตม. ก็จะอายัดตัวมากักที่ห้องกักของ ตม. ป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ และ ตม. จะนำตัวผู้ต้องหาไปศาลฯ ตามนัด เมื่อเสร็จก็จะนำกลับมากักต่อจนกว่าคดีความจะสิ้นสุด”

นอกจากนี้ยับพบว่า พนักงานสอบสวนยังนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลฯ โดยไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งที่เป็นคดีร้ายแรงและผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งแม้ศาลจะมีหนังสือแจ้ง ตม. หลังให้ประกันตัวผู้ต้องหา โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ซึ่ง ตม. ก็ขึ้นบัญชีดำเอาไว้แล้ว แต่ชาวเยอรมันได้ติดต่อทนายความให้แจ้งศาลฯว่า มีธุรกิจจำเป็นต้องกลับไปทำที่เยอรมัน ศาลจึงอนุญาตให้ออกนอกประเทศ จนเป็นที่มาของเรื่องดังกล่าว

ซึ่งเบื้องต้นตนเองได้สั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัยกับผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา หัวหน้างานสอบสวน และพนักงานสอบสวนในขณะนั้น ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา จะอ้างว่าไม่แน่นในระเบียบ แต่เป็นตำรวจจะอ้างเช่นนั้นไม่ได้

ส่วนคดีอาญาก็จะต้องตรวจสอบให้ได้ว่ามีใครรับเงินบ้าง โดยช่วงบ่ายวันที่ 8 ธ.ค.66 ได้ประสานเชิญเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทยมาหารือถึงแนวทาง โดยจะขอให้ทางการเยอรมนีสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ ว่าจ่ายเงินให้ใครบ้าง หรือหากเป็นไปได้อาจส่งทีมตำรวจไทยไปสอบปากคำเอง เพื่อให้ความจริงปรากฎ

ส่วนทนายความของผู้ต้องหาสอบถามแล้ว ก็ไม่ทราบว่าลูกความตนเองจ่ายเงินให้ใครบ้างเช่นกัน บอกเพียงว่ารับเงินมาทั้งหมด 1 ล้านบาท เป็นทั้งค่าจ้างและหลักทรัพย์ยื่นประกันตัว แต่ยืนยันว่าถ้าพบตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รายใดกระทำความผิด ตนเองไม่ช่วยแน่นอน

ส่วนผู้ต้องหาชาวอเมริกันอีกคนหนึ่งที่ซื้อบริการทางเพศ ถูกจับกุมพร้อมกับชาวเยอรมัน ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วเช่นกัน ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ยังเหลือเจ้าของร้านชาวอังกฤษที่ยังอยู่ในประเทศ จึงสั่งการให้นำตัวไปกักที่ห้องกักของ ตม. แล้ว เพื่อรอกระบวนการนัดของศาล

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าว ส่งผลต่อการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของไทยพอสมควร ซึ่งตนเตรียมนัดเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา เพื่ออธิบายเรื่องดังกล่าวแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark