ก้าวไกล เร่งหาข้อเท็จจริงเหตุ ทีมงานสส.ทะเลาะกัน
พรรคก้าวไกล เร่งสอบปม ทีมงาน สส.นนทบุรี วิวาทกันเอง ย้ำพรรค ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ หาความจริงและมีบทลงโทษผู้กระทำผิด
วันนี้ (16 ม.ค.67) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุ ทางพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริง กรณีทีมงาน สส.จังหวัดนนทบุรีทำร้ายร่างกายกัน เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.67) และไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะพรรคก้าวไกลต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ส่วนเรื่องกระบวนการในการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายมี 2 ส่วน คือกระบวนการของตำรวจ ซึ่งเข้าใจว่าตอนนี้อยู่ในกระบวนการสอบปากคำ รวบรวมหลักฐาน และอีกส่วนที่เราดำเนินการคู่ขนาน คือกระบวนการตรวจสอบภายในของพรรค ผ่านคณะกรรมการวินัย โดยตั้งแต่ทราบเรื่อง เราได้ริเริ่มกระบวนการเพื่อเร่งหาข้อเท็จจริง ความผิดรวมถึงเร่งดำเนินการกับสมาชิกพรรคที่กระทำความผิด และเร่งให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
นายพริษฐ์ ยืนยันข้อเท็จจริงบางส่วนปรากฎชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องการทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางกรรมการวินัย สามารถดำเนินการได้เร็ว แต่นอกเหนือจากนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มีใครบ้าง รวมไปถึงมูลเหตุที่ก่อความรุนแรง ยืนยันว่าคณะกรรมการวินัยก็จะทำหน้าที่ให้เร็วที่สุด โดยประเด็นที่อาจต้องใช้เวลาคือประเด็นแวดล้อม ใครรู้เห็นเรื่องนี้ หากมีสมาชิกพรรคกระทำ เราพร้อมจะดำเนินการลงโทษตามสัดส่วน และไม่ได้การปกป้องผู้กระทำผิด
.
ส่วนที่ คนที่บาดเจ็บ เคยมาร้องกรรมการวินัยให้สอบจริยธรรม นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.เขต 3 นนทบุรี นั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า เรื่องร้องเรียนที่ผู้ถูกทำร้ายได้ยื่นเข้ามาที่พรรค ได้ยื่นเข้ามาในช่วงเดือน ธ.ค. 66 โดยยื่นไปที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ซึ่งตนเข้าใจว่าตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบควบคู่ไปด้วยเช่นกัน ส่วนเป็นเรื่องอะไรนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะเรื่องถูกยื่นไปที่หัวหน้าพรรค แต่เมื่อตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คงจะมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะ ทั้งนี้บทลงโทษผู้กระทำความผิด จะเป็นไปตามข้อบังคับพรรค
โฆษกพรรคก้าวไกล ย้ำ พรรคก้าวไกล ไม่อยากเห็นความรุนแรง แต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่พรรคก้าวไกลจำเป็นจะต้องทำคือต้องรับผิดชอบ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคตอีก
ภายในวันนี้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เตรียมไปเยี่ยมคนบาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมสอบถามข้อเท็จจริง