สุดสลด ชายวัย 46 ปี ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำบุญ เกิดอุบัติเหตุถูกรถพ่วงทับร่างดับคาถนน

สุดสลด ชายวัย 46 ปี ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำบุญ เกิดอุบัติเหตุถูกรถพ่วงทับร่างดับคาถนน
               
วันที่ 18 ม.ค.67 ที่ จังหวัดอุทัยธานี เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 3013 สายทัพทัน-สว่างอารมณ์ ระหว่างกม.ที่ 11–12 บริเวณบ้านดงดำ หมูที่ 2 ตำบลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี โดยมี พ.ต.อ.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง ผกก.สภทัพทัน พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลทัพทัน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี เข้าตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
     
ซึ่งที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70 – 4627 นครสวรรค์ ลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 70 – 3959 นครสวรรค์ บรรทุกน้ำตาลทรายมาเต็มคัน จอดอยู่ข้างทาง มีนายวิวัฒน์ อายุ 56 ปี คนขับยืนรอให้การกับตำรวจ ตรวจสอบรถพ่วง พบช่วงบริเวณล้อหลังของลูกพ่วงพบรอยเลือดจำนวนหนึ่ง ห่างกันประมาณ 200 เมตร พบรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเทน่า หมายเลขทะเบียน กฉธ 633 ปทุมธานี สภาพพังยับเยิน และพบศพทราบชื่อคือ นายประสิทธิ์ อายุ 46 ปีชาวตำบลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี สภาพศพถูกล้อรถพ่วงทับจนร่างเสียหายทั้งร่าง กะโหลกศรีษะแตกกระจัดกระจาย
     
จาการสอบถาม นายวิวัฒน์ฯ คนขับรถพ่วง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองได้ไปบรรทุกน้ำตาลทรายจากโรงงานในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี มาจำนวน 33 ตัน 150 ก.ก. ( 660 กระสอบ ) โดยกำลังมุ่งหน้าไปส่งน้ำตาลทรายในพื้นที่ อำเภอพระป่าแดง จังหวัดสมุทรปราการ ใช้ความเร็วประมาณ 60 กม.ต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถจักรยายนต์ออกมาจากทางแยกของหมู่บ้าน ลักษณะที่ไม่ได้ระวังรถที่วิ่งมาตามถนนใหญ่ที่ตัดกับทางแยก แต่ตนเองนั้นหยุดรถไว้ไม่อยู่ จึงชนรถจักรยายนต์เข้าอย่างจัง เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ก่อนประสานบริษัทประกันภัยที่ทางบริษัททำไว้เข้ามาตรวจเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง นายวิวัฒน์ ฯ กล่าว
    
จากการสอบถาม ภรรยา ผู้ตาย เล่าว่า วันนี้เป็นวันพระ ตัวเองและสามี ( ผู้ตาย ) ได้ไปทำบุณวัดภายในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. แต่ขับรถไปคนละคัน หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ต่างคนต่างกลับแต่ตนเองนั้นถึงบ้านแล้ว แต่สามียังไม่กลับมา ก่อนได้รับโทรศัพท์ครั้งแรกจากสามีว่า น้ำมันรถจักรยานยนต์หมด ให้ตนเองซื้อน้ำมันมาเติมให้ ตนเองจึงได้นำน้ำมันไปเติมให้ดังกล่าว จากนั้นก็แยกกันกลับ ซึ่งตนเองนั้นกลับถึงบ้านก่อน แต่จนแล้วจนเล่า สามีก็ยังไม่กลับมา จนได้รับโทรศัพท์ อีกครั้งจากเพื่อนบ้านว่า สามีถูกรถเหยียบเสียชีวิต จึงออกจากบ้านมาดูที่เกิดเหตุ ดังกล่าว