ผัวเมียทะเลาะกันบ้านเกือบแตก ธนาคารยึดบ้านผิดหลัง ไม่เคยมาขอโทษสักครั้ง

ธนาคารดัง ยึดบ้านผิดหลัง ผัวเมียทะเลาะกันบ้านเกือบแตก ผ่านมา 4 เดือน ธนาคาร และ ทนายความ ไม่เคยมาขอโทษสักครั้ง บอกเพียงให้รอเดือนมีนาคม จึงจะถอนคดีให้ ล่าสุด แม้ธนาคารจะรู้เรื่องแล้วว่ายึดผิดหลัง แต่บ้านยังถูกติดอยู่บนกระดานประกาศทรัพย์สินขายทอดตลอด

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางเพ็ญประภา อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านหลังหนึ่งที่ บ้านฟากนา ต.นาอาน อ.เมืองเลย ว่า จู่ๆ มีหนังสือจากกรมบังคับคดีมายึดบ้านของตนเอง ทั้งที่ไม่เคยไปกู้เงินธนาคาร รีบไปสอบถามที่ธนาคารบอกว่าทนายยึดผิดบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวจนบ้านเกือบแตก ส่วนทางธนาคารและทนายไม่เคยออกมาขอโทษเลย บอกว่าเจอกันที่ศาลจะถอนคดีให้เดือนมีนาคม จึงต้องออกมาร้องกับสื่อให้ช่วยเหลือ

นางเพ็ญประภา เล่าว่า มีหนังสือกรมบังคับคดีมายึดบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 66 ระหว่างธนาคาร กับนายพรชัย สอนสุภาพ (สามีของตนเอง) กับพวกรวม 3 คน ตนเองตกใจมาก จึงสอบถามสามีบอกว่าไม่เคยไปกู้เงินธนาคาร และไม่เคยค้ำประกันให้ใครเลย จนต้องมีปากเสียงกับสามีที่คิดว่าโกหก  จะมีหนี้ก็เฉพาะ ธกส. เท่านั้น และจ่ายตรงมาตลอด ส่วนบ้านพร้อมที่ดินของตนเองประเมินราคาอยู่ที่ 2,000,000 บาท

จากนั้นไปสอบถามที่กรมบังคับคดี บอกว่าให้ไปติดต่อทางธนาคาร จึงไปที่ธนาคาร สาขานาอาน จนท.ได้ตรวจสอบพบว่าชื่อและนามสกุลเดียวกันแต่คนละคน  และอุทานออกมาว่าตายแล้วทนายยึดบ้านผิดหลัง และติดต่อไปทางทนายบอกว่าจะไปถอนคดีเดือนมีนาคมนี้ และจะไปที่บ้านเพื่อขอโทษ ตั้งแต่วันนั้นมาผ่านมาเข้า 4 เดือนแล้ว ทั้งธนาคารและทนาย ไม่เคยมาที่บ้านสักครั้ง มีแต่ลูกสาวต้องวิ่งไปสอบถามอยู่หลังครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เพียงแต่ทางทนายบอกว่าจะถอดคดีให้เดือนมีนาคมนี้ จนมาทราบว่าที่กระดานประกาศทรัพย์สินขายทอดตลอด มีบ้านของตนเองด้วย  ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้บ้านจะโดนขายทอดตลาดหรือเปล่า เราเป็นชาวบ้านธรรมดา ถ้าทางธนาคารและทนายยอมรับผิดมาขอโทษก็ให้อภัย