ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รักผัวมากกว่าแม่! ลูกสั่งผัวตบหน้า ไล่แม่พ้นบ้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ กัน จอมพลัง บุกอุดรธานี พาแม่ร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจ หลังถูกลูกสาว-ลูกเขย ทำร้ายจนร่างช้ำ ใบหน้าบวมปูด

นี่เป็นคลิปเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคม ประมาณ 21.30 น. นางพิสมัย อายุ 67 ปี ชาวอุดรธานี ถูกลูกเขยทำร้ายร่างกายจนเป็นแผลช้ำไปทั้งตัว ส่วนลูกสาวนอกจากไม่ช่วยก็ยังมาช่วยซ้ำอีก ก่อนพากันหนีออกจากบ้าน ซึ่งหลังเหตุการณ์คุณแม่ไปแจ้งความไว้แล้วกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ ให้ดำเนินคดีกับลูกสาว ชื่อ นางสาวณัฐวรรณ อายุ 35 ปี และนายประชา ผู้เป็นลูกเขย ซึ่งร่วมกันใช้กำลังตบตีชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุแม่รักษาตัวแล้วเข้าแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้า

ทำให้เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) กัน จอมพลัง พานางพิสมัย เข้าร้องเรียนกับ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อขอความเป็นธรรมในคดี โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี ร่วมรับฟังปัญหาที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

นางพิสมัย เล่าให้ฟังว่า ตนกำลังนอนเล่น ลูกสาวดื่มเบียร์ และได้ขว้างขวดเบียร์ใส่กำแพง ขวดเบียร์แตกแก้วกระเด็นมาถูกตนทำให้มีบาดแผล จึงมีปากเสียง ลูกสาวได้ให้ลูกเขยใช้มือตบหน้าตนหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงโทรหาเพื่อนให้มาช่วยออกจากบ้านพาไปโรงพยาบาล และแจ้งตำรวจ ก่อนจะตัดสินใจไม่กลับบ้านไปอยู่กับลูกสาวและลูกเขยอีก

สำหรับปมปัญหานั้นมีมานานแล้ว นางพิสมัยบอกว่า ตนเคยพูดกับลูกสาวว่า ลูกเขยคนนี้ถ้าลูกไม่มีบ้าน ไม่มีที่ ผู้ชายคนนี้คงไม่มาอยู่กับลูก แม่พูดกับลูกสาว แต่ลูกเอาไปฟ้องสามี ซึ่งลูกเขยคงจำฝังใจ และทุกครั้งที่ลูกสาวเมาก็จะชอบไล่ตนออกจากบ้าน ทั้งที่บ้านหลังนี้ลูกเอาที่ดินของตนไปเข้าธนาคาร แล้วเอาเงินออกมาสร้างบ้าน เพราะตนเคยถือเป็นคนมีฐานะคนหนึ่ง แต่หย่าร้างกับสามีเมื่อ 15 ปีก่อน มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย ส่วนคนเล็กเป็นผู้หญิง ส่งเสียจนเรียนจบสูง ๆ พอเงินหมดลูกสาวก็เปลี่ยนไป

ซึ่งนางพิสมัยบอกว่า เหตุที่ลูกสาวมักไล่ออกจากบ้านนั้น คิดว่าคงอยากพาครอบครัวของลูกเขยเข้ามาอยู่แทน หรืออยู่ด้วยกันสองคน ก่อนหน้านี้พี่ชายคนโตซึ่งเคยอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยก็เคยทะเลาะวิวาทกับน้องสาวคนนี้ น้องสาวก็จ้างพี่ชาย 50,000 บาทให้ไปอยู่ที่อื่น

นางพิสมัยบอกว่า จะไม่กลับไปอยู่บ้านหลังนั้นและอยากจะได้ที่ดินตรงนั้นคืน ส่วนลูกสาวนั้นหากจะมาขอโทษกราบเท้าก็ไม่ยอม เพราะมีพฤติกรรมเช่นนี้หลายครั้งแล้ว หากตายไปก็ไม่ต้องมาเผาผีกันอีก

จากนั้น กัน จอมพลัง และทีมงาน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ได้พานางพิสมัยไปส่งที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ที่นางพิสมัยและเพื่อนเช่าไว้อยู่ชั่วคราวเพื่อหนีลูกสาวและลูกเขย ทั้งนี้ กัน จอมพลัง ได้ช่วยจ่ายเงินค่าเช่าห้องให้ 1 เดือน และมอบเงินสดให้ไว้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง และรับปากจะช่วยเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ตอนนี้คุณแม่ประสงค์ที่จะได้ทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินจากลูกสาวคืน ซึ่งมีทนายกำลังดำเนินการในส่วนของการฟ้องร้องให้ ส่วนคดีความทางผู้กำกับก็รับเรื่องและรับปากว่าจะเร่งคดีนี้ให้เร็วที่สุด

ด้าน ทนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ บอกว่า ในส่วนเรื่องคดีความทางคุณแม่อยากได้ที่คืนนั้น กรณีนี้เป็นทรัพย์สินที่มารดาให้กับบุตร หากว่าตัวลูกหรือลูกเขยร่วมกันทำร้ายร่างกาย หรือด่าทอรุนแรง หากข้อเท็จจริงปรากฏแบบนั้น ลักษณะนี้กฎหมายสามารถเพิกถอนการให้โดยเนรคุณได้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางสาวณัฐวรรณ ลูกสาวของนางพิสมัย ซึ่งได้ยกมือไหว้ขอโทษผ่านสื่อ ก่อนเปิดใจว่า ขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกอย่างถือว่าเป็นความผิดของลูกสาวคนนี้ ขอโทษที่ทำหน้าที่ลูกสาวไม่ดี เพราะแม่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ เป็นความผิดของแม่และลูกสาวสองคนนี้เท่านั้น ไม่มีใครมายุยงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในทรัพย์สินต่าง ๆ ไม่มีเจตนาทำร้ายแม่ถึงขั้นเสียชีวิต

เหตุการณ์วันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ตอนแรกแม่ให้ไปซื้อเบียร์มาให้ดื่ม 2 ขวด ผ่านไป 1 ชั่วโมง แม่ให้ไปซื้อเบียร์อีก 2 ขวด นางสาวณัฐวรรณยอมรับว่าทำงานมาแล้วก็เหนื่อย จึงพูดกับแม่ว่า เวลาจะพูดหรือจะใช้อะไร ขอให้พูดดี ๆ กับลูกหน่อย แม่ก็เริ่มมีอารมณ์และพูดถึงเรื่องเก่า ทวงบุญคุณอ้างว่าไม่เลี้ยงแม่ และอ้างว่าบ้านหลังนี้แม่เป็นคนซื้อ กูจะขายตอนไหนก็ได้ เธอจึงเริ่มโมโหมีปากมีเสียง เธอยอมรับว่าขว้างขวดเบียร์ใส่แม่ แต่ตั้งใจแค่อยากให้แม่เงียบ แต่แม่จับขวดเบียร์ที่แตกเป็นปากฉลามมาหาจนโดนแขนตนเอง จึงเรียกแฟนมาดู แล้วเกิดชุลมุนทำร้ายกันไปมาจนแม่ล้มลง

ลูกสาวบอกว่า ที่แม่ย้ายไปอยู่ห้องเช่าด้านนอก เพราะแม่เชื่อคนนอกเกินไป ถ้าแม่อยากได้ที่ดินคืน เธอพร้อมให้แม่คืนทุกอย่าง แต่ถ้าแม่ยอมให้อภัย ให้ไปกราบเท้าก็ยอม แต่ไม่อยากให้คนอื่นที่เป็นคนนอกมายุ่งเรื่องของครอบครัวของพวกเรา

ส่วนนายประชากล่าวถึงกรณีที่ภรรยาเคยจ้างพี่ชายให้ออกจากบ้าน เป็นเพราะพี่ชายไม่ยอมทำมาหากิน นอนอยู่กับบ้าน พอภรรยาหรือน้องสาวพูดก็ถูกพี่ชายทำร้ายร่างกาย ภรรยาจึงยอมจ้างด้วยเงินสดกว่า 30,000 บาท และรถจักรยานยนต์ไปอีกคัน ให้พี่ชายออกไปจากบ้านหลังนี้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark