เหม็นขี้หมู ยอมหนีไปนอนส้วม

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องนี้ชาวบ้านในชุมชนเผชิญปัญหามานาน และร้องเรียนมาต่อเนื่อง ทางผู้ประกอบการฟาร์มสุกร หรือ ฟาร์มหมู ก็พยายามปรับแก้ แต่ปัญหายังไม่จบสิ้น คือ ปัญหากลิ่นขี้หมู มลพิษทางอากาศ ถึงขั้น บ้านหลังหนึ่งชวนลูกชวนหลานนอนในส้วม

ต้องนอนส้วม เพราะน่าจะเป็นพื้นที่เซฟโซนที่สุด บ้านของ นางสมออายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลวังลึก อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งห่างจากฟาร์มหมูประมาณ 500 เมตร อาศัยอยู่กับหลานชายอายุ 3 ขวบ ต้องพากันย้ายที่หนีเข้าไปอาศัยทั้งกินและนอน พร้อมขับถ่ายภายในส้วม แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว 

แม้จะมีบ้าน 2 ชั้น แต่ชั้นบนอยู่ไม่ได้ เพราะบ้านเป็นห้องเปิดโล่ง ลมพัดกลิ่นขี้หมูมาเข้าได้ทุกทิศทาง จึงไม่สามารถใช้เป็นที่หลับนอนได้ เลยนอนในส้วม โดยใช้เศษผ้าอุดรูตามช่องลมไม่ให้กลิ่นขี้หมูเข้า แล้วเอาตาข่ายสีฟ้าขึงปิดประตูกันยุง นอนในนี้ กินในนี้ มานานกว่า 1 เดือนแล้ว อยากกราบวิงวอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้เร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านที่นี่ด้วย ก่อนหน้านี้เคยอพยพไปอาศัยหลบนอนตามบ้านญาติ 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง ก็เกรงใจเขา

ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านพากันทำป้ายประท้วง ร้องเรียนฟาร์มเลี้ยงหมู ตั้งอยู่กลางทุ่งนา แต่กลิ่นมันเหม็นกระจายไปไกล 3-5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เด็กและคนแก่เจ็บป่วยกันอีกหลายคน บางต้องเอาผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และผ้าเช็ดตัว มาวางแขวนปิดไว้รอบมุ้ง เพื่อป้องกันและบรรเทากลิ่นขี้หมู แม้ไม่ได้ผลมากนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ส่วนข้อกฎหมายที่คนเลี้ยงหมูต้องรู้ กฎหมายระบุชัด เช่น กรณีเลี้ยงหมูจำนวนระยะห่าง ตั้งแต่ 10-21 ตัว จะต้องมีระยะห่างจากบ้านหรือชุมชนไม่น้อยกว่า 50 เมตร, ตั้งแต่ 21-50 ตัว ไม่น้อยกว่า 100 เมตร ในกรณีนี้ที่ทราบมาคือ มีหมูเป็นพันตัว ก็ต้องรักษาระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตรขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายอื่น ๆ ทั้งการปลูกต้นไม้ การรักษาสุขลักษณะในสถานประกอบการ ด้วย

แต่เรื่องนี้ ชาวบ้านบอก แม้สถานประกอบการจะห่าง 3-5 กิโลเมตร ไม่ขัดกฎหมาย แต่กลิ่นมันมาตามลม ซึ่งนักข่าวในพื้นที่แจ้งว่า ที่ผ่านมา ทางฟาร์มพยายามแก้ปัญหา เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ ทั้งใช้เทคโนโลยีกำจัดกลิ่นจากบ่อพัก และปรับสุขลักษณะ แต่อาจไม่โดนใจชาวบ้านที่ต้องการให้ไม่มีกลิ่นเล็ดลอดมา