คลิปที่เกี่ยวข้อง

สรุปเหตุการณ์วุ่นวาย จากฟุตบอลโลก กลายเป็นเหตุการณ์นองเลือด | บ้าบอคอร์บอล EP.103

 
Podcast EP.103 : สรุปเหตุการณ์วุ่นวาย จากฟุตบอลโลก กลายเป็นเหตุการณ์นองเลือด

ก่อนเกมหลายฝ่ายจับตามองคู่นี้ ในฐานะคู่รักคู่แค้นที่โคจรมาเจอกัน แถวแอฟริกาเรียกการเจอกันของคู่นี้ว่า โจลลอฟ ดาร์บี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นคู่แข่งกันมายาวนาน ทั้งในแง่การเมืองและวัฒนธรรมทางสังคม แม้จะไม่ได้มีพรมแดนติดกันโดยตรงก็ตาม แต่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ข้าวผัดโจลลอฟ อาหารพื้นเมืองที่เป็นที่นิยมของทั้งสองประเทศนั้นถือกำเนิดขึ้นเพราะฝั่งตัวเองเป็นคนคิด

มีการโต้เถียงกันอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเภทของข้าว ปริมาณของเครื่องเทศที่ใช้ รวมถึงการจัดจานต่างๆ ถึงขนาดมีการจัดโต้วาทีของนักการฑูตและนักการเมืองจากทั้งสองประเทศ แต่ยังไม่มีใครตัดสินได้ว่า ข้าวผัดโจลลอฟ ของประเทศไหนอร่อยกว่ากัน ซึ่งข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ นั้นมีการคาดการณ์กันว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1969 หลังจากที่ ประเทศกาน่า ออกกฎหมายควบคุมแรงงานชาวไนจีเรียขึ้นมาบังคับใช้ ก่อนที่ทางฝั่ง ประเทศไนจีเรีย จะออกกฎหมายคล้ายกันขึ้นมาบังคับใช้บ้างในปี 1983

ความเป็นคู่อริกันของทั้งสองประเทศเริ่มแผ่วงกว้างไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งในวงการเพลง เมื่อศิลปินชื่อดังของ ไนจีเรีย ออกมาเปิดเผยว่า ดนตรีแนวแอโฟรบีท นั้นได้รับอิทธิพลมาจากเสียงเพลงของชาวกาน่า ทำให้เกิดความไม่พอใจของประชาชนในประเทศไนจีเรีย และได้ออกมาตำหนิศิลปินคนดังอย่างหนัก ล่าสุดถึงขนาดที่นักดนตรีชาวกานา และสตาร์แนวแอโฟรบีทของไนจีเรีย ได้ออกมาโต้เถียงกันในประเด็นดังกล่าวจนถึงขั้นท้าทายชกต่อยกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามทั้งสองประเทศต้องโคจรมาพบกันในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา นัดเพลย์ออฟ ซึ่งการแข่งขันนัดแรกที่สนามบาบา ยาร่า สเตเดี้ยม ในกรุงคูมาซี ประเทศกาน่า จบลงแบบไม่มีสกอร์ และถึงแม้ว่าปัจจุบันผลงานของ ทีมชาติกาน่า จะอยู่ในช่วงตกต่ำหลังจากเพิ่งตกรอบแรกของฟุตบอล แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 มาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และด้วยความเป็นอริกันของทั้งสองประเทศ แต่ก็ยังมีแฟนบอลชาวกาน่า จำนวนมากเดินทางไปยัง ประเทศไนจีเรีย เพื่อเข้าชมการแข่งขันในนัดที่สอง

สำหรับ การแข่งขันในนัดที่สอง ที่กรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย ถือเป็นการเจอกันครั้งที่ 51 ของทั้งสองชาติ ซึ่งในการเจอกันของ ดาร์บี้แห่งแอฟริกาตะวันตก ครั้งนี้มีเดินพันสูงมาก เพราะนอกจากโอกาสที่จะได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ปะรเทศกาตาร์แล้ว ยังถือเป็นการสกัดกั้นไม่ให้คู่อริสำคัญ ได้มีโอกาสเดินทางไปโชว์ฝีเท้าที่กาตาร์ อีกด้วย ซึ่งในการแข่งขันนัดที่สอง กาน่า สามารถบุกมาเสมอกับ ไนจีเรีย ได้ด้วยสกอร์ 1-1 หลังขึ้นนำไปก่อนจาก โธมัส ปาร์เตย์ ตั้งแต่ 10 นาทีแรก จากความผิดพลาดของ ฟรานซิส อูโซโฮ ผู้รักษาประตูไนจีเรีย ก่อนที่ ไนจีเรีย จะตามตีเสมอได้สำเร็จจาก วิลเลียม ทรูสต์-เอกอง แต่ก็ไม่เพียงพอทำให้สุดท้าย ไนจีเรีย ต้องตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2006 ที่ทีมชาติไนจีเรีย ไม่ได้ไปร่วมเล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

หลังจากจบเกม แฟนบอลชาวไนจีเรีย ต่างแสดงความไม่พอใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะตั้งความหวังสูง เนื่องจากได้โอกาสมาเล่นในบ้านของตัวเองในนัดที่สอง ทำให้โอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มีมากขึ้น จนถึงขั้นบุกลงไปในสนาม ทำลายสิ่งของต่างๆ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ในสนาม และพยายามทำร้ายนักเตะของทีมชาติกาน่าด้วย เนื่องจากในช่วงหลังจบเกม นักเตะทีมชาติกาน่า ที่ยังไม่ทันได้สังเกตเห็นอารมณ์ร่วมของแฟนบอลเจ้าบ้าน ก่อนจะเริ่มรู้สึกตัวได้หลังจากถูกแฟนบอลเจ้าถิ่นขว้างปาสิ่งของเข้า ทำให้นักเตะกาน่าต้องรีบวิ่งเข้าห้องแต่งตัวทันที แต่ก็ยังมีแฟนบอลบางส่วนที่พยายามจะวิ่งตามเข้าไป และพยายามจะทุบประตูเพื่อบุกเข้าไปภายในสนามอีกด้วย

มีรายงานเปิดเผยออกมาว่า รัฐบาลของทางไนจีเรีย ได้มีการมอบเงินสนับสนุนให้กับแฟนบอลชาวไนจีเรียทุกคนที่เดินทางมาขึ้นรถบัสของทางการ ที่มีการจัดเตรียมไว้ถึง 100 คัน สำหรับขนแฟนบอลไปชมการแข่งขันนัดนี้ จนทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นว่า อาจเป็นแรงจูงใจที่ทำให้แฟนบอลชาวไนจีเรีย มีอารมณ์ร่วมกับเกมนี้มากเป็นพิเศษหรือไม่ ขณะที่ทาง สถานฑูตของกาน่าในประเทศไนจีเรีย ก็ได้มีการมอบตั๋วเข้าชมเกมนี้ ให้กับแฟนบอลชาวกาน่า ที่ต้องการให้สามารถเข้าชมเกมนัดนี้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย จนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีแฟนบอลของทั้งสองประเทศเข้ามาร่วมชมเกมนัดนี้มากเป็นพิเศษ

นอกจากนั้น แม้ว่าตามรายงานของ สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา จะอนุญาตให้แฟนบอลของทั้งสองทีมสามารถเข้าชมเกมนี้ได้เพียงแค่ 39,000 คน จากความจุ 60,000 คนของสนาม แต่แหล่งข่าวได้อ้างว่า ในวันแข่งขันนัดดังกล่าวอาจมีแฟนบอลเดินทางเข้ามาชมเกมนัดนี้มากถึง 80,000 คนเลยทีเดียว เนื่องจากที่นั่งภายในสนามเต็มตั้งแต่ก่อนเวลาการแข่งขันถึง 1 ชั่วโมง ขณะที่ด้านนอกของสนามแข่งขัน ยังมีแฟนบอลอีกนับพันคน ที่ไม่มีตั๋วเข้าชม และพยายามจะหาทางเข้ามาในสนาม จนเกิดความวุ่นวายในทางเข้าออกของสนามช่องทางหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มผลักดันแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วเข้าชมให้ออกไปจากสนาม ซึ่งได้มีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่พยายามจะบันทึกภาพเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้ได้ แต่ทางนักข่าวได้อ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความไม่พอใจ และได้เข้ามาทำร้ายร่างกายของเขาแทน นอกจากนั้นแฟนบอลบางคนที่มีตั๋วเข้าชมเกมถูกต้อง ก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าสนามไปด้วยเช่นกัน โดยมีรายว่า แฟนบอลบางคนถือตั๋ววีไอพี ที่ซื้อมาในราคา 60 ดอลลาห์ หรือถือตั๋วเข้าชมในที่นั่งแบบบ็อกซ์ วีไอพี ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกีดกันไม่ให้เข้าสนามด้วยเช่นกัน

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เริ่มเข้ามาระงับเหตุการณ์ ด้วยการใช้กระบองทุบตีใส่แฟนบอลที่บุกรุกลงมาในสนาม และเริ่มมีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ทำให้ความโกลาหลในครั้งนี้ได้เริ่มลามออกมาภายนอกสนามแข่งขัน จนเป็นสาเหตุทำให้รถที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถ ถูกทุบทำลายจนเกิดความเสียหาย ขณะที่แฟนบอลบางคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และกำลังเดินทางกลับหลังจบการแข่งขัน ก็ยังถูกทำร้าย และถูกชิงทรัพย์จากแฟนบอลหัวรุนแรงในครั้งนี้ไปด้วย

สำหรับการบุกรุกสนามแข่งขัน หลังจบเกมของแฟนบอลไนจีเรีย นั้นเกิดขึ้นเป็นประจำในการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศไนจีเรีย จนกลายเป็นเรื่องปกติในสายตาของแฟนบอลเหล่านั้นไปแล้ว ย้อนหลังกลับไปในปี 2011 หลังจากที่ ทีมชาติไนจีเรีย เสมอกับ ทีมชาติกินี ด้วยสกอร์ 2-2 จนทำให้ ไนจีเรีย ไม่ได้ไปเล่นในการแข่งขันฟุตบอล แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ 2012 กลุ่มแฟนบอลไนจีเรีย ก็แสดงความไม่พอใจ ด้วยการพังประตูสนามแข่งขัน ทุบกระจกห้องของแขกวีไอพี รวมถึงมีการขว้างก้อนหินใส่รถบัส จนมีนักเตะได้รับบาดเจ็บมาแล้ว รวมไปถึงเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1973 หลังจากที่ แฟนบอลไนจีเรีย ไม่พอใจหลังจากประเทศบ้านเกิดแพ้ให้กับ ทีมชาติกาน่า จนเริ่มการก่อการจราจล จนถึงขั้นมีการวางเพลิงเผารถบัสของ ทีมชาติกาน่า เลยทีเดียว

จากเหตุการณ์ในเกมดังกล่าว ได้มีข่าวลือออกมาในโลกออนไลน์ว่า คุณหมอโจเซป คาบังโก้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ชาวแซมเบีย ของสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาและฟีฟ่า ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องการตรวจหาสารกระตุ้นของนักเตะในเกมระหว่าง ไนจีเรีย พบกับ กาน่า ครั้งนี้ ถูกพบว่าเสียชีวิตจากการถูกแฟนบอลทำร้ายร่างกาย แต่ล่าสุดได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เหตุการณ์เสียชีวิตของ คุณหมอโจเซป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบุกรุกสนามแข่งขันของแฟนบอลไนจีเรีย แต่อย่างใด แต่เกิดจากการเสียชีวิตเพราะอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ในขณะกำลังเดินไปห้องแต่งตัวของทีมชาติกาน่า เพื่อจะตรวจสารกระตุ้นนักเตะหลังจบเกม และแม้ว่าจะมีการนำตัวคุณหมอส่งโรงพยาบาลในกรุงอาบูจา อย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่ทันเวลา

ฟังรายการ บ้าบอคอร์บอล Podcast ได้ทั้ง 2 ช่องทาง
:: คลิกฟังทาง Soundcloud
:: คลิกฟังทาง Spotify

ติดตามรายการ บ้าบอคอร์บอล Podcast ทั้งหมดได้ทั้ง 3 ช่องทาง
:: ติดตามทาง >> Bugaboo.TV
:: ติดตามทาง >> Soundcloud
:: ติดตามทาง >> Spotify

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark