ข่าวอื่นๆ

เมสซี่เจ ชนาธิป สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติไทย นำทัพลุยศึกคิงส์ คัพ ตั้งเป้าพาทีมคว้าแชมป์

 
เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติไทย ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมชาติไทย สำหรับลงแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 จากการแต่งตั้งของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ที่ได้มีการปรึกษากับ มาโน โพลกิ้ง เฮดโค้ชของทีมชาติไทย โดยที่มี ธีราทร บุญมาทัน ทำหน้าที่เป็นรองกัปตัน ในทีมชุดนี้

โดย ทีมชาติไทย ชุดทำศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ที่สนามฟุตบอลอัลไพน์ รีสอร์ท กอล์ฟคลับ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันเกมแรกกับทีมชาติมาเลเซีย ภายใต้สภาพอากาศที่ปลอดโปร่ง และไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ นักเตะทุกคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม ซึ่งการฝึกซ้อมเน้นไปที่รูปแบบที่ใช้เล่นกับ มาเลเซีย ร่วมถึงวิธีการเล่นรุก-รับ จากลูกลูกตั้งเตะ ใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมง

ก่อนการฝึกซ้อม ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทย ได้กล่าวว่า "ก็ดีใจครับที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆ น้องๆ บางคนก็ไม่เคยร่วมงานกันเลย เหมือนเราได้มาร่วมงานกับน้องๆ ที่เป็นดาวรุ่ง ก็รู้สึกดีใจ" ส่วนประเด็นที่ไม่ได้ลงสนามให้กับทาง คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ มากนักทางด้าน เมสซี่ ก็ได้เปิดเผยว่า "ผมว่าเราไปอยู่ทีมใหญ่การแข่งขันบางทีมันสูง การที่ผมได้ไปก็คือความท้าทายที่เราอยากจะออกไป ก็รู้สึกมีหลายคนเครียดแทนผมเยอะมาก แต่ตัวผมเองไม่ได้เครียดขนาดนั้น มันเป็นสิ่งที่เราได้เห็นฟุตบอลอีกทีมที่เขาเป็นแบบนี้ ทุกคนเป็นแบบนี้ ระบบทีมเป็นแบบนี้ ก็ได้เรียนรู้ และดีใจที่ได้กลับมารับใช้ชาติ ได้เล่นฟุตบอลฟีฟ่า เดย์ กับเพื่อนๆน้องๆ หน้าใหม่"


 
"แน่นอนเราต้องเป็นแชมป์ การเล่นทีมชาติไทย มันเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมีแฟนบอลคอยเฝ้ามอง พวกเราทุกคนก็เป็นชุดที่ดีที่สุดที่โค้ชเรียกมา พวกเราจะพยายามโชว์ศักยภาพให้แฟนๆได้ดู เพราะเราเล่นในบ้านด้วย ต่อหน้าแฟนบอล ที่ไม่ค่อยได้เห็นเราเล่นในบ้านนานพอสมควร พวกเราต้องเอาแชมป์ให้ได้ และผมเชื่อมั่นว่า น้องๆ ทุกคน และเพื่อนร่วมทีม รวมถึงพี่ๆ จะสามารถเอาแชมป์ได้"
 
"ผมว่าฟุตบอลมันมีช่วงเวลาที่ดี ไม่ดี มาเลเซีย หรือทีมอื่นก็เป็นทีมที่ดี ผมไม่ได้สนใจสถิติที่ผ่านมา เราโฟกัสกับปัจจุบัน พรุ่งนี้เป็นเกมที่ยาก แต่เราต้องเก็บชัยชนะให้ได้ กับการได้เล่นที่เชียงใหม่ ครั้งแรกในรอบ 9 ปี ผมว่ามันคงแตกต่าง เพราะตอนนั้นเราเป็นเด็ก วันนี้เราเป็นซีเนียร์ของทีมชาติ รู้สึกเวลาผ่านไปไวก็รู้สึกดีใจ ที่เราได้เติบโตมาในอีกแบบหนึ่ง ความคิดมันแตกต่างกัน"

"ส่วนพัฒนาการของ สุภโชค ผมก็คุยกับน้องตลอด ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ซัปโปโร เพื่อนๆ ดีไหม ใครคุยกับเราบ่อยไหม กับข้าวอร่อยไหม เราอยู่มาก่อน เรารู้ว่า ซัปโปโร เป็นทีมที่ดี เพื่อนๆ ก็ดี แฟนคลับก็ดี และอาหารก็อร่อย เขาอยู่กับพี่ทิ พี่ทิก็คอยช่วยหยอกล้อให้กำลังใจ คือเรื่องฟุตบอลเป็นสิ่งที่ท้าทายอยู่แล้วสำหรับการออกมา การที่ไม่กล้าออกมาเป็นสิ่งที่เราไม่มีความท้าทาย ตอนนี้เช็ครู้แล้วว่า บอลมันอีกระดับ น้องน่าจะพัฒนาไปอีกระดับ แน่นอนทั้งร่างกายและจิตใจ"

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark