การซื้อคอนโดฯ ใหม่ที่ยังสร้างไม่เสร็จ อาจเป็นความเสี่ยงที่เปรียบได้กับการลุ้นโชค เพราะมีเพียงภาพตัวอย่างห้องให้เราดูเท่านั้น ผู้ซื้อจึงต้องเตรียมใจเอาไว้หน่อย เผื่อความซวยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

เรื่องแรก คือ "ไม่ตรงปก" เราอาจไม่ได้ห้องตามที่ตกลงกันไว้ เช่น วิวไม่สวย การตกแต่งไม่เหมือนห้องตัวอย่างในภาพ และสเปกต่าง ๆ ที่ไม่ตรง แตกต่างจากคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์รอบ ๆ และรายละเอียดต่าง ๆ ภายในและภายนอกห้อง วัสดุที่ใช้ ตำหนิต่าง ๆ รวมถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเป็นปัญหาใหญ่ได้อย่างเรื่อง "ที่จอดรถ" ด้วย

เรื่องที่ 2 คือ "กู้ไม่ผ่าน" เพราะการซื้อคอนโดฯ ในลักษณะนี้ อาจเป็นการซื้อ Pre-Sale โดยทำเรื่องผ่อนเงินดาวน์ รอจนสร้างเสร็จ จากนั้นจึงทำเรื่องกู้ และทำเรื่องโอน ตามลำดับ ซึ่งมีหลาย ๆ ครั้งที่ผู้กู้ กู้ไม่ผ่าน ทำให้ต้องเสียเงินดาวน์ไป ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ยังมีสิทธิ์ที่จะขอคืนได้ เนื่องจากไม่ใช่การผิดสัญญาจากผู้กู้ซื้อ เพราะยังต้องการซื้อห้องนี้จริง ๆ อยู่

คำถามต่อมา คือ เมื่อเรากู้ไม่ผ่านแล้ว วิธีการขอรับเงินคืน หรือ วิธีการขายใบจองต่อคนอื่น วิธีใดเป็นวิธีที่ดีกว่ากัน ตอบได้ว่า สามารถทำได้ทั้ง 2 วิธี ขึ้นอยู่กับราคา ณ เวลานั้น และจำนวนห้องที่เหลือว่าง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ

เรื่องที่ 3 คือ "สร้างไม่เสร็จตามกำหนด" กรณีเช่นนี้ เป็นการผิดสัญญาทางฝั่งผู้สร้าง โดยเราสามารถบอกเลิกสัญญา และขอเงินคืนได้

ทั้งนี้ หากเราตัดสินใจแล้วว่าคอนโดฯ แห่งนี้คือทำเลทอง ทำใจรับได้กับการซื้อทั้ง ๆ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ จะมีวิธีการลดความเสี่ยงลงอย่างไร ?

เรื่องแรก คือ "ชื่อเสียง" ของผู้พัฒนาโครงการ หรือ Developer หากชื่อเสียงดี มีความน่าเชื่อถือ มีผลงานประจักษ์ ก็อาจเป็นตัวการันตีได้

เรื่องที่ 2 คือ "เซ็นก่อนอ่าน" โดยเฉพาะเงื่อนไขการคืน กรณีที่ไม่เป็นไปตามสัญญา เช่น หากเป็นข้อผิดพลาดจากทางฝั่งเรา กรณีกู้ซื้อไม่ผ่าน หรือข้อผิดพลาดจากทางโครงการ กรณีห้องไม่เป็นไปตามที่ตกลง หรือกรณีอื่น ๆ แล้วเงื่อนไขในการคืนนั้นจะเป็นอย่างไร ต้องระบุรายละเอียดให้ชัด และอ่านให้ดีก่อนเซ็นทุกครั้ง

เรื่องที่ 3 คือ "เก็บหลักฐานและสัญญาให้ครบถ้วน" ทั้งใบปลิว ภาพประกอบ โฆษณาต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเอกสารแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ตกลงกัน เพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหา ทางผู้ซื้อจะได้มีหลักฐานที่สามารถใช้ชี้แจงได้

การกู้ซื้อคอนโดฯ อาจเป็นการสร้างภาระหนี้ในระยะยาว 20-30 ปี ดังนั้น ต้องมีความละเอียดรอบคอบ และการตัดสินใจที่ดีก่อนซื้อ เพราะหากอยู่ ๆ ไปแล้วรู้สึกไม่โอเค นั่นหมายความว่าเป็นมูลค่าหลักล้านที่เราต้องรับผิดชอบ

สำหรับใครที่จะซื้อคอนโดฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัยเป็นหลัก อาจดูเรื่องการคมนาคม การเดินทางไปทำงาน ห้างสรรพสินค้า หรือความสะดวกสบายต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ แต่หากมองไว้เผื่อทำกำไรด้วย อาจต้องมองหาทำเลติดรถไฟฟ้า ในระยะที่สามารถเดินเท้าถึงสถานีได้ และยิ่งสถานีนั้นมีความคึกคักทางเศรษฐกิจ ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นด้วย

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน สนามข่าว 7 สี ช่วง "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35