ข่าวในหมวด เจาะประเด็น

เจาะประเด็น ชีวิตนี้เพื่อเธอ-เหยื่อรถพ่วง

อีกเรื่องราวซาบซึ้งที่แชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นเหยื่ออุบัติเหตุรถพ่วงเมื่อปี 2555  หากยังจำกันคราวนั้นภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ถูกล้อรถพ่วงบดขยี้แขนและขา ขณะขับขี่รถจักรยนต์ซ้อนท้ายกันกลับจากตรวจครรภ์  เป็นเหตุให้ภรรยาสาวต้องถูกตัดแขนและขาทิ้ง โชคดีที่สามีและลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัย ทุกวันนี้ทั้งสองได้ยืนหยัดต่อสู้กับชะตากรรมอย่างไม่ย่อท้อ ด้วยความรักและเสียสละที่มีให้กัน เราจะไปติดตามเรื่องราวประทับใจและให้กำลังใจกับทั้งคู่ด้วยกันใน"เจาะประเด็น
                            
ทีมข่าวเจาะประเด็น รุดเยี่ยมครอบครัวน้องโอและน้องภัทร เหยื่อรถพ่วง ถึงห้องเช่า ซอย.เพชรเกษม 87 พบสองสามีภรรยา กำลังนั่งเล่นอยู่กับลูกสาวตัวน้อยวัย 2 ขวบ น้องภัทราภรณ์ ทองทา หรือภัทร วัย 24 ปี เล่าย้อนอดีตอุบัติเหตุร้ายปลายปี 2555 ที่ยังฝังใจไม่ลืมว่า ระหว่างซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กับสามี หลังจากตรวจครรภ์เสร็จ ระหว่างทางได้ถูกรถพ่วง 18 ล้อเฉี่ยวชนแล้วหนี ทำให้แขนและขาซีกซ้ายของน้องภัทร กระดูกแตกละเอียด ต้องตัดอวัยวะทิ้ง โชคดีที่สามีและลูกอายุ 4 เดือนในครรภ์รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ แต่ก็ดับอนาคตเธอในพริบตา

ผ่านมากว่า 2 ปี กับชีวิตที่ถูกยัดเยียดความพิการเสียแขน-ขาน้องภัทร บอกว่าเธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ช่วงแรกต้องให้สามี คอยอุ้มพาทำกิจวัตรทุกอย่าง จนกระทั่งคลอดลูกสาว ได้อาศัยพ่อ-แม่สามีมาช่วยเลี้ยงไปก่อน ส่วนสามีต้องทำงานคนเดียวเพื่อหาเลี้ยง 5 ชีวิตในบ้าน แทบไม่พอกิน น้องภัทรจึงฝืนพยายามช่วยเหลือตัวเอง บางครั้งต้องกระโดดขาเดียวเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ทำงานบ้าน กระทั่งย้ายออกมาเช่าห้องอยู่ใกล้ที่ทำงานสามี  เพื่อให้พ่อกับแม่ได้กลับไปทำงาน และเธอตัดสินใจดูแลลูกน้อยเอง

น้องภัทร ยอมรับ ช่วงแรกที่ย้ายมาห้องเช่าลำบากมากระหว่างที่สามีออกไปทำงาน ต้องปิดประตูขังตัวเองและน้องเฟิร์สลูกสาวไว้ในห้อง เพราะกลัวลูกออกไปวิ่งเล่นเกิดอันตราย บางครั้งคิดมาก ร้องไห้แต่ไม่ให้ใครเห็นน้ำตา ทำได้แค่ก้มหน้ารับชะตากรรม ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะลูกและได้
กำลังใจจากสามี ระหว่างนี้ใช้เวลาหารายได้เสริม ด้วยการขายเสื้อผ้าทางเฟสบุ๊ค เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ

ขณะที่ยายน้องภัทร พอทราบข่าวหลานมาเช่าห้องอยู่ ด้วยความเป็นห่วงหลานและเหลนจึงย้ายมาเช่าห้องอยู่ข้างๆ เพื่อคอยดูแล ทั้งยังบอกน้องภัทรชีวิตอาภัพ พอพ่อเสีย ต้องหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญา แต่สุดท้ายต้องมาประสบเคราะห์กรรมอย่างน่าเวทนา    

นอกจากพยานรักตัวน้อย กำลังใจที่ดีที่สุดของน้องภัทร ก็คือน้องโอ ผู้เป็นสามี ถึงวันนี้แม้ภรรยาจะประสบอุบัติเหตุพิการแขน-ขาไม่คาดฝัน แต่เขายืนยันจะอยู่เคียงข้างดูแลไปตลอดชีวิต

น้องโอ บอกว่าจากเดิมที่ทำงานโรงงานต้องเข้ากะ ไม่มีเวลาแน่นอน โชคดีที่ผ่านมาได้เข้าทำงานที่เทศบาลอ้อมน้อยซึ่งอยู่ใกล้ห้องเช่า ช่วงพักกลางวันจึงได้กลับมาทานข้าวและช่วยภรรยาเลี้ยงลูกบ้าง ยอมรับแบกภาระหนักอึ้ง เพราะต้องทำงานคนเดียว เงินเดือนแทบไม่พอใช้จ่าย ที่ห่วงหนักอีกไม่กี่ปีลูกสาวต้องเข้าโรงเรียน ยังไร้เงินเก็บ บางครั้งก็เหนื่อยและท้อต่อโชคชะตา แต่ก็ไม่ถอยสัญญาจะไม่ทอดทิ้งกันไปไหน ส่วนเรื่องคดีความ ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว ได้แต่ทำใจ เพราะยังไร้วี่แววคนมารับผิดชอบ

ขณะที่เพื่อนร่วมงานต่างชื่นชม น้องโอเป็นคนเรียบร้อยขยันทำงานและเป็นที่รักใคร่ของทุกคน

ชาวบ้านย่านห้องเช่า ต่างพากันชื่นชมในความรักและความเสียสละที่ทั้งคู่มีให้กัน พร้อมอยากให้คู่รักคู่อื่นดูเป็นแบบอย่าง

แม้ในเรื่องคดีความ ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนขับรถพ่วงคู่กรณีที่ขับรถชน มาลงโทษได้ แต่สิ่งดีๆ ที่ปรากฏให้เห็น นั่นคือรักแท้ยังมีอยู่จริง แม้จะมีอุปสรรคและปัญหาถาโถมก็ไม่อาจขวางกั้น ซึ่งคุณผู้ชมสามารถร่วมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวนี้ผ่านหมายเลขบัญชีที่ปรากฏหน้าจอ               

(ธนาคารกรุงเทพ  สาขา บิ๊กซี อ้อมใหญ่  เลขที่บัญชี 012-063288-0 ชื่อบัญชี น.ส.ภัทราภรณ์  ทาทอง)

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark