รักนี้ถูกกีดกัน สาว 15 กับหนุ่มวัย 21 ผูกคอตาย กอดร่างกันจบชีวิตทั้งคู่
เด็ดข่าวเด่น - เกิดเหตุสุดสลดทำพ่อแม่ช็อค 2 นักเรียนวัยรุ่นคบหาเป็นแฟนกันแต่ 2 ครอบครัวไม่เห็นด้วยกับการกระทำ ทั้งคู่เลยตัดสินใจผูกคอตายในสภาพกอดกันก่อนตายใต้ต้นไม้ใหญ่จบปัญหาถูกกีดกัน
เหตุสลดนี้เกิดขึ้นที่ในพื้นที่อำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ วัยรุ่นสาว อายุ 15 ปี และแฟนหนุ่มอายุ 21 ปี อยู่ในสภาพผูกคอตายสองศพมีรองเท้าแตะตกอยู่ที่พื้น ที่กิ่งไม้สูงจากพื้นราว 3 เมตร มีเชือกไนล่อนสีขาวผูกกับกิ่งไม้ ส่วนปลายเชือกผูกอยู่ที่ลำคอของผู้ตาย ทั้งคู่อยู่ในลักษณะหันใบหน้าชิดกันคล้ายกอดกันก่อนตาย นอกจากนั้นยัง พบว่าม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ที่ผู้ตายใช้เหยียบขึ้นไปล้มลง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 3 ชั่วโมง
สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายทั้งสองคนเป็นแฟนกันและเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันโดยฝ่ายหญิงเรียนอยู่ชั้น ม.3 ส่วนฝ่ายชายเรียนทางเลือกซึ่งเป็นหลักสูตรสายอาชีพที่โรงเรียนเปิดสอนคู่ขนานกัน สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นปี 2558 ผู้ปกครองของฝ่ายหญิงทราบว่าฝ่ายชายมาติดพันลูกสาวตนอย่างลึกซึ้ง จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ท่าตูมในข้อหาพรากผู้เยาว์และเรียกร้องค่าเสียหายกันไปแล้ว ซึ่งศาลได้ตัดสินลงโทษฝ่ายชายคือจำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้กลับมาคบหากันอีก แต่คราวนี้ถึงขนาดไปอยู่กับฝ่ายชายที่บ้านเป็นบางครั้ง เมื่อแม่ของฝ่ายหญิงทราบเรื่องก็ไปตามให้กลับลูกสาวก็ไม่ยอมกลับ แม่ของฝ่ายหญิงจึงไปแจ้งความในข้อหาเดิม
ด้านลุงของฝ่ายหนุ่มบอกว่าเมื่อสองวันที่แล้วทางสาววัยรุ่นได้มาหาฝ่ายชายที่บ้าน พอตกตอนบ่ายแม่ของฝ่ายหญิงไปตามหาเพื่ออยากให้ลูกสาวไปโรงเรียนแต่ทั้งคู่ก็พากันหลบไม่ให้พบ จนกระทั่งกลับเข้ามาบ้านอีกในตอนเย็นวานนี้ ตนก็ได้แนะนำว่าอย่าขาดเรียน ลุงบอกถึงสาเหตุที่หลานชายกับคนรักตัดสินใจผูกคอตายด้วยกัน ว่าน่าจะเกิดจากการถูกกีดกันเรื่องความรัก จึงตัดสินผูกคอตายเพื่อหนีปัญหา
ด้านแม่ของฝ่ายหญิง บอกว่าการที่ไปติดตามหาลูกสาวอยู่เรื่อยๆนั้นไม่ใช่ไปตามเอาเรื่อง แต่ไปตามเพราะอยากให้ลูกกลับไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ก็ถูกฝ่ายชายกีดกันไม่ให้พบกัน
เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นที่รักกันต้องมีสติมากๆก่อนตัดสินใจอะไรลงไป เพราะคนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อแม่ส่วนฝ่ายผู้ปกครองมีอะไรทางแพทย์ย้ำเสมอว่าต้องค่อยๆพูดค่อยจากันไม่งั้นอาจเกิดความสูญเสียที่อาจไม่คาดคิดลักษณะนี้ได้
