ข่าวในหมวด เจาะประเด็น

เจาะประเด็น Special - ตำรวจเชื่อ! มีคนไทยร่วมขบวนการวางระเบิดแยกราชประสงค์

ตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเก็บกู้ EOD ต่างเร่งหาเบาะแสวัตถุพยาน พร้อมทั้งรวบรวมภาพชายผู้ต้องสงสัย ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ บริเวณจุดเกิดเหตุศาลท้าวมหาพรหม

ขณะเดียวก็ขอความร่วมมือ หากประชาชนท่านใดมีภาพถ่ายเหตุระเบิดในวันนั้น ทั้งช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ หรือเป็นภาพถ่ายบริเวณจุดที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ขอให้ส่งให้เจ้าหน้าตรวจสอบ เพื่อร่วมกันหาเบาะแสเชื่อมโยง ควานหาตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมาย ล่าสุดตำรวจชี้ เป็นไปได้ว่ามีคนไทยร่วมก่อเหตุครั้งนี้ด้วย พร้อมดูโฉมหน้าคนร้ายจากภาพสเก็ต ติดตาม "เจาะประเด็นสเปเชียล"
                         
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ชายต้องสงสัยไม่ระบุสัญชาติ รูปร่างผอม-สูง สวมเสื้อสีเหลือง สะพายเป้ มือข้างหนึ่งถือถุง คือ คนร้ายมือวางระเบิดที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางก่อเหตุ คาดว่าล่าสุดคนร้ายน่าจะยังกบดานอยู่ในประเทศไทย   

ตลอดวันที่ผ่านมา ประชาชนได้โพสต์เผยแพร่ภาพชายต้องสงสัยรายนี้ในโลกโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่เร่งควานหาตัวคนร้าย

เหตุระเบิดรุนแรงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้คนไทยมีส่วนร่วมสอดส่อง ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสคนร้าย ผ่านแอปพลิเคชั่น "Police i lert u" ทีมข่าวลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางคนร้ายอีกครั้ง ได้เบาะแสเพิ่มเติมจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปพบกับคุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์         

แกะรอยเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนี เริ่มจากคนร้ายได้นั่งรถสามล้อเครื่องจากแยกศาลาแดงมาถึงแยกราชประสงค์ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพ ชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายชาวต่างชาติ ร่างผอม-สูงราว 180 เซนติเมตร สวมเสื้อคอกลมแขนสั้น-สีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้น สวมแว่นตา สะพายเป้ และถือถุง
  
18.45 น. ชายต้องสงสัยคนนี้เดินมาอยู่ในศาลท้าวมหาพรหม ก่อนจะวางกระเป๋าเป้ทิ้งไว้ใต้ม้านั่ง แล้วทำท่ากดโทรศัพท์มือถือ เดินออกมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่วินรถรับจ้าง แถวปากซอยมหาดเล็กหลวง ถนนราชดำริ เพื่อให้ไปส่งที่สวนลุม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในซอย

18.55 น. เสียงระเบิดดังสนั่น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ชี้ชัด คนร้ายใช้เวลาก่อวินาศกรรมแค่ 5 นาที        

ทีมเจาะประเด็นได้ไปคุยกับ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง วินหน้าปากซอยมหาดเล็กหลวง 1 ถนนราชดำริเผย ในวันเกิดเหตุหลังได้ยินเสียงระเบิดกึกก้อง ตนเองตกใจแทบสิ้นสติ จู่ๆก็เห็นชายชาวต่างชาติผู้ต้องสงสัยเสื้อเหลือง มายื่นกระดาษคล้ายนามบัตร ให้ไปส่งยังจุดหมายที่จดไว้ โดยไม่ยอมพูดจาสื่อสารกับใคร แต่มีท่าทางสงบนิ่งปรกติ ไม่มีพิรุธ ลุกลี้ลุกลนแต่อย่างใด วันนั้น เพื่อนวินเดียวกันที่ชื่อ นายเกษม ปุกสุวรรณ ได้ขับมอเตอร์ไซด์ไปส่งชายต้องสงสัยรายนิ้ บริเวณลานจอดรถสวนลุมพินี แถวๆแยกสารสิน ห่างจากวินมาประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตร

ปรกติทุกครั้งวินนี้จะให้บริการชาวต่างชาติเป็นประจำ ทุกคนจึงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกต ว่าชายรายนี้จะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดศาลท้าวพระพรหม 

ขณะเดียวกัน วินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย สีลมซอย 9 ซึ่งวานนี้ถูกพาดพิงว่า คนร้ายได้มาลงมอเตอร์ไซด์ที่จุดนี้ พวกเค้ายืนยันว่า คนร้ายไม่ได้มาลงมอเตอร์ไซด์ที่จุดนี้ เพราะวันเกิดเหตุพวกตนก็อยู่วินกันตลอด และจุดนี้มีกล้องวงจรปิดติดอยู่รอบทิศถึง 4 ตัว เป็นไปได้ว่าคนร้ายคงจะไปลงที่ลานจอดรถสวนลุมตามที่บอก

รปภ.ลานจอดรถสวนลุมพินีชี้ ในวันดังกล่าวเป็นวันจันทร์ จุดนี้จะห้ามไม่ให้ร้านอาหาร และหาบเร่แผงลอยเปิดขาย วันนั้นผู้คนจึงไม่พลุกพล่าน ขณะเดียวกันชาวต่างชาติก็มักเดินเข้า-ออก ประตูปิดช่วงราว 3 ทุ่ม ตนเองไม่ได้ทันสังเกต จึงไม่เห็นความผิดปรกติใดๆ และไม่เห็นชายชาวต่างชาติต้องสงสัยมือวางระเบิด

พล.ต.ท ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่า ชายต้องสงสัยเสื้อเหลืองเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทย เนื่องจากภาพกล้องวงจรปิดไม่ชัดเจน สังเกตได้ว่าจมูกของคนร้ายผิดรูปกว่าคนปรกติ ซึ่งอาจเป็นการพรางตัวก็เป็นได้ และคนร้ายไม่ยอมพูดสื่อสารกับใคร กระทั่งกับวินมอเตอร์ไซค์ ยังยื่นนามบัตรให้ไปส่งที่หมาย บริเวณลุมพินีปาร์คทาวเวอร์ ย่านถนนพระราม 4

ตลอด 2 วันมานี้ โลกโซเชี่ยลมีเดีย ได้เผยแพร่จุดสังเกตเสื้อที่คนร้ายสวมใส่วันก่อเหตุ เพื่อนำไปสู่เส้นทางการสืบสวนสอบสวน พบเป็นเสื้อยืดที่ผลิตในประเทศไทย วางขายอยู่ย่านประตูน้ำและสีลม บางส่วนส่งไปขายยังประเทศอินโดนีเซีย

ล่าสุด ตำรวจเรียกสอบพยานในจุดเกิดเหตุ จนนำไปสู่การออกภาพสเก็ตช์คนร้าย ซึ่งมีลักษณะผิวขาว ผมสีดำ จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ตาสองชั้น สวมแว่นสายตา พรุ่งนี้เตรียมออกหมายจับ มีการตั้งข้อสังเกตว่า คนร้าย ไม่ได้มีลักษณะคล้ายแขกขาว

เชื่อว่ามีคนไทยร่วมก่อเหตุครั้งนี้ด้วย เพราะวัสดุที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด ทั้งท่อพีวีซี น็อต และชิ้นส่วนมอเตอร์ไซด์ที่นำมาใช้ ล้วนเป็นทำขึ้นและมีจำหน่ายในนประเทศไทย อีกทั้งคนร้าย ยังชำนาญ รู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ทีมข่าวเจาะประเด็นสเปเชียลรายงาน
                             
ตำรวจขอความร่วมมือพลเมืองดีช่วยส่งเบาะแส ร่วมสกัดจับคนร้าย ล่าสุด มีการตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท แก่ผู้ที่ชี้เบาะแสให้ข้อมูลคนร้ายมือวางระเบิดปริศนา จนนำไปสู่การจับกุมผู้ที่ที่บ่อนทำลายความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศไทย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark