ข่าวในหมวด เจาะประเด็น

เจาะประเด็น Special - เหยื่อผู้เสียสละ ลงพื้นที่แดนใต้ สุดท้ายกลายเป็นคนพิการ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ดูเหมือน ปัญหาเดิมๆ ยังคงร้อนระอุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พุ่งเป้าสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ เหตุเกิดรายวัน เจ้าหน้าที่บางรายดวงไม่ถึงฆาตแค่บาดเจ็บ-พิการ ตกเป็นภาระครอบครัว

ย้อนไปดูแค่สัปดาห์ที่ผ่านมา 14 กันยายน เกิดเหตุระเบิดรถเจ้าหน้าที่ทหารพราน บริเวณถนนสาย 418 อ.เมือง จ.ยะลา ขณะกำลังนำขบวนรถตู้วีไอพี นักศึกษาวิทยาลัยกลาโหมไปดูงานที่  กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 43 ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 นาย

ถัดมาแค่ 3 วัน 17 กันยายน ได้มีคนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมืองหลายจุด ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 45 เสียชีวิต 1 นาย และชาวบ้านอีก 1 ราย มีผู้บาดเจ็บกว่า 14 ราย

และสดๆร้อนๆ เมื่อเช้านี้ ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณเชิงสะพานจะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนรักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

ข้อมูลเชิงลึกหน่วยงานความมั่นคง เผย ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้กว่า 16,000 เหตุการณ์ มีข้าราชการครู ผู้นำศาสนา กำลังพลทหาร,ตำรวจ เสียชีวิตเกือบ 5,000 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับชั้นประทวน

ทีมข่าวได้เดินทางไปพบ สิบตำรวจตรี รายหนึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช แม้จะรอดตายหวุดหวิดจากเหตุปะทะที่ จ.นราธิวาส แต่วันนี้เค้าร่างกายพิการต้องใช้ชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็นอย่างไร ติดตามกับคุณสุพรรษา คงเหล็ก

สิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ ขวัญขาว เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้โชคร้าย หลังถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางตะปูเรือใบระหว่างนั่งรถกระบะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกำลังเสริมหน่วย อี.โอ.ดี เพื่อนตำรวจที่นั่งมาด้วยตายคาที่ 6 ราย ส่วนตนเองและเพื่อน 5 ราย บาดเจ็บสาหัส แม้แพทย์จะผ่าตัดสมองยื้อชีวิตรอดตาย แต่ไม่อาจฟื้นร่างกายให้เป็นปกติเหมือนเดิม ต้องปิดฉากอาชีพตำรวจ ทั้งที่เพิ่งสอบบรรจุเข้ารับตำแหน่งที่ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้ไม่ถึงปี

ตลอด 2 ปีมานี้ครอบครัวขวัญขาวต้องทุกข์หนัก ทั้งบ้านต้องอยู่รวมกัน 7 ชีวิต ลูกสะใภ้เปิดร้านเสริมสวยหารายได้เสริม ก็หมดไปกับค่าโรงเรียนของลูก วัย 10 ขวบ และ 2 ขวบ ยังไม่พอค่าดูแลผู้ป่วยเดือนนึงเฉียด 20,000 บาท

แม้ทุกเดือน สิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ ยังได้รับเงินเดือนๆละ 12,000 บาท บวกเงินเดือนข้าราชการทหารของผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ก็แทบไม่พอ แต่ละเดือนพันจ่าเอกถาวร ผู้เป็นพ่อ ต้องขับรถพาลูกชายไปพบแพทย์ไกลถึง จ.สงขลา ล่าสุดยังตัดสินใจลาออกจากราชการทหาร จะได้อยู่บ้านช่วยภรรยาผลัดเปลี่ยนกันดูแลลูกชาย

ภรรยาสิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ เปิดใจ สามีฝันอยากเป็นตำรวจ เพียรสอบถึง 3 ครั้ง จนได้เป็นตำรวจสมใจ แม้วันนี้สามีจะกลายเป็นผู้พิการ ให้ต้องดูแล แต่ก็ไม่เคยสิ้นหวัง ๆ ว่าสักวันอาการป่วยของสามีจะดีขึ้น

สะเทือนใจทุกครั้ง เมื่อได้ยินข่าวเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ แล้วมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจต้องมาบาดเจ็บ ล้มตาย

หลังเกิดเหตุหน่วยงานต้นสังกัด สภ.บาเจาะ ไม่ได้ทอดทิ้ง คอยแวะมาเยี่ยมเยือน ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนตำรวจร่วมโรงพักย้อนเล่าให้ฟังว่า ตลอด 11 เดือนที่สิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งเป็นคนมุ่งมั่น ขยันทำงาน คาดไม่ถึงจะเกิดเหตุร้าย ถึงวันนี้กำลังพลที่เหลือยังมุ่งมั่นเป็นแนวหน้าปฏิบัติงานพื้นที่เสี่ยง

เป็นเหตุความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นี่เป็นเพียงหนึ่งชีวิตเจ้าหน้าที่ผู้หาญกล้า ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประชาชนและประเทศชาติ หวังคืนความสงบสันติ กลับคืนสู่จังหวัดปลายด้ามขวานชายแดนใต้

ทีมข่าวเจาะประเด็นสเปเชียลขอยกย่องในความเสียสละและเป็นกำลังใจให้นายตำรวจผู้นี้และครอบครัวสู้ชีวิตต่อไปอย่างย่อท้อ รวมถึงขอส่งแรงใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อชาติทุกวินาที ให้รอดพ้นจากเหตุร้าย และแม้จะนานแค่ไหน ชาวไทยทุกคนก็ยังหวังให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้กลับมาสงบสุขดังเดิม

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark