ข่าวในหมวด วันสำคัญ

วันมาฆบูชา 2562 วิถีแห่งธรรม ชาวพุทธควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อสิริมงคลชีวิต


 
วันมาฆบูชา ในปี 2562 นี้ ตรงกับ วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนึ่งโอกาสที่ดี ที่ประชาชนทั่วไปสามารถหยุดพักผ่อนและพาครอบครัวไปสร้างบุญบำเพ็ญกุศลและกระทำพิธีทางศาสนาได้อยากเต็มที่

แต่ทว่าชาวพุทธเองบางท่าน อาจจะยังไม่ทราบว่า วันมาฆบูชา นั้นมีความสำคัญอย่างไร ทำไมจึงเป็นวันหยุด รวมถึงควรปฏิบัติ หรือไม่ควรปฏิบัตตนอย่างไรกันใน วันมาฆบูชา นี้

เอาล่ะ Bugaboo จึงขอมาบอกเล่าประวัติคร่าวๆสำหรับ วันมาฆบูชา พร้อมทั้งคำสอนสำคัญ ข้อพึงปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ วันมาฆบูชา มาฝากกัน

วันมาฆบูชา เป็นวันที่ระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์แก่มหาสังฆสันนิบาต ในมณฑลวัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งในวันนั้นมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการคือ

1. วันมาฆบูชา พระสงฆ์ 1,250 รูปที่พระพุทธองค์ได้ส่งไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาตามแว่นแคว้นต่างๆ ได้กลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
2. วันมาฆบูชา พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นเอหิภิกขุที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น ซึ่งเรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา
3. วันมาฆบูชา พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ คือผู้ได้อภิญญา 6 ข้อ
4. วันมาฆบูชา วันที่พระสงฆ์ทั้งหมดมาชุมนุมกันนี้ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3)

ด้วยเหตุการณ์ประจวบกับ 4 อย่าง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จาตุรงคสันนิบาต (มาจากศัพท์บาลี จตุ+องฺค+สนฺนิปาต แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสี่ประการ) โดยประชุมกัน ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว 9 เดือน (45 ปี ก่อนพุทธศักราช)


วันมาฆบูชา

ส่วนในเรื่องหลักธรรมคำสอนสำคัญ วันมาฆบูชา ที่ชาวพุทธควรนำไปปฏิบัติ ก็คือ โอวาทปาติโมกข์  ซึ่งเป็นหลักสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา นำไปสู่ความหลุดพ้น โดยจะประกอบด้วย หลักการ 3 ประการ ดังนี้

1. การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)

2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม)

3. การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัยความดีทางวาจา


วันมาฆบูชา

มาต่อกันที่วิธีปฎิบัติตนใน วันมาฆบูชา กันบ้าง

       ช่วงเช้า : เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ควรไหว้พระ นั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบหลังจากตื่นนอน และเตรียมทำบุญ ถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระภิกษุสามเณร หรือไม่ก็จัดหาอาหารคาวหวานไปทำบุญฟังเทศน์ที่วัดตามความเหมาะสม
      
       ช่วงสาย : เดินทางไปวัดที่อยู่ใกล้บ้าน ฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา ทำบุญทำทาน และสมาทานรักษาศีล 5หรือ ศีล 8
      
       ช่วงบ่าย : ฟังพระธรรมเทศนาในวัดที่จัดให้มีพิธีเทศน์ในตอนกลางวัน หรือไปเดินจงกรม นั่งสมาธิชำระล่างความเศร้าหมองตามความสะดวกเหมาะสม โดยที่ต้องไม่หลับนอนในวันสำคัญนี้

       ช่วงเย็น : เตรียมตัวเพื่อเวียนเทียนเป็นพุทธบูชา 

ซึ่งก่อนจะเวียนเทียน วันมาฆบูชา ชาวพุทธควรทราบข้อควรกระทำ ดังนี้ 
 
          ๑. จัดเตรียมเครื่องสักการะ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน มาพร้อมกันที่วัด ตามเวลานัดหมาย เพื่อฟังโอวาทหรือพระธรรมเทศนา และเวียนเทียน
          ๒. ก่อนออกจากบ้าน ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส และแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย
          ๓. เมื่อถึงวัดแล้ว ควรอยู่ในอาการสำรวม ไม่พูดคุยหยอกล้อ วิ่งเล่น หรือกระทำภารกิจอื่นอันไม่ควร เช่น เคาะระฆังเล่น จุดดอกไม้ไฟ ฯลฯ
          ๔. เมื่อถึงเวลาประกอบพิธี ให้ทุกคนไปเข้าแถวหรือเข้าไปในสถานที่กำหนดโดยพร้อมเพรียงกัน
          ๔. ก่อนเริ่มพิธีเวียนเทียน พระสงฆ์ผู้เป็นประธาน จะกล่าวให้โอวาท ทุกคนต้องพนมมือถือดอกไม้ธูปเทียนตั้งใจฟังด้วยความสงบ กล่าวคำสาธุ เมื่อพระสงฆ์ให้โอวาทจบ
          ๖. ในพิธีสวดมนต์ จะมีผู้กล่าวนำคำบูชาเนื่องใน วันมาฆบูชา และคำบูชาพระรัตนตรัย ให้ทุกคนจุดธูปเทียนประนมมือ กล่าวตามด้วยความเคารพ มีจิตใจยึดมั่น

หลังจากสวดมนต์เสร็จ ประธานในพิธีจะนำเวียนเทียน โดยเริ่มจากพระสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป


วันมาฆบูชา

ในการเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์ จะกระทำ ๓ รอบ โดยเวียนไปทางขวา เรียกว่า เวียนแบบทักขิณาวัฏ

รอบที่ ๑ ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ
รอบที่ ๒ ให้รำลึกถึงคุณพระธรรม โดยภาวนาคาถา บทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ
รอบที่ ๓ ให้รำลึกถึงคุณพระสงฆ์ โดยภาวนาคาถา บทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ

          ๗. ในการเดินเวียนเทียน ต้องทำจิตใจให้มีสมาธิ สงบ และแน่วแน่อยู่กับบทบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ไม่ควรส่งเสียงพูดคุยหรือเดินแซงผู้ที่เดินอยู่ข้างหน้า
          ๘. เมื่อเวียนเทียนครบ ๓ รอบแล้ว ให้นำดอกไม้ ธูป เทียน ไปวางไว้ในจุดกำหนด เพื่อสะดวกแก่การเก็บทำความสะอาด
          ๙. หลังจากเสร็จพิธีเวียนเทียนแล้ว ควรช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณโบสถ์ให้เรียบร้อย แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความสงบอิ่มเอมใจ หรืออยู่ร่วมพิธีอื่นๆ ที่ทางวัดจัดให้มีขึ้น


BUGABOO NEWS    

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark