รีวิวหนัง The Shape Of Water
The Shape Of Water เรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์กับตัวประหลาด หรือมนุษย์น้ำ ฉากหลังถูกเซ็ทให้เกิดขึ้นในยุค 1960 ช่วงต้น เอลิซ่า หญิงสาวกำพร้าผู้เป็นใบ้ ทำงานในฐานะแม่บ้านประจำแล็บระดับสูง เธอเกิดความผูกพันธ์กับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อยู่ตรงกลางระหว่างการแก่งแย่งชิงดีของสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในช่วงยุคสงครามเย็น
ผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โตโร ได้เนรมิตความสวยงามของเทพนิยายรักอันพิศดารออกมาให้มีความหวานละมุน แต่ก็แฝงไปด้วยความดาร์ก มีฉากสยดสยองเข้ามาในเรื่องนี้ด้วย จึงทำให้หนังจัดอยู่ในเรท R ซึ่งต้องบอกว่าจุดนี้แหละคือเสน่ห์ของ The Shape Of Water ที่สามารถรวมความรู้สึกทุกอารมณ์มาประกอบกันได้อย่างลงตัว
ในด้านของนักแสดงนำอย่าง แซลลี ฮอวค์คินส์ ที่รับบทนางเอกของเรื่อง เอไลซา สาวใบ้ผู้โดดเดี่ยว แม้จะไม่มีบทพูดแต่ แซลลี ฮอวค์คินส์ ก็ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละคร เอไลซา ออกมาได้ลึกซึ้งมากๆ ส่วนพระเอกมนุษย์น้ำนั้นได้ ดั๊ก โจนส์ ผู้ที่เคยฝากผลงานไว้กับเรื่อง Hellboy และยังเคยแสดงบทตัวประหลาดต่างๆ ไว้หลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นทางถนัดของเขาเลย บวกกับชุดโครงร่างเอฟเฟคที่สร้างมนุษย์น้ำตัวนี้ขึ้นมานั่น ยิ่งเสริมให้ตัวละครตัวนี้มีความสมบูรณ์แบบมากซะเหลือเกิน มีความอ่อนโยนไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อย แต่ก็แฝงไปด้วยสัญชาตญาณการป้องกันตัวที่น่าเกรงขาม นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมากฝีมือคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อ็อกเทเวีย สเปนเซอร์ ในบทเพื่อนร่วมงานที่คอยช่วยเหลือ เอไลซา , ริชาร์ด เจนคินส์ ในบท ไจล์ นักวาดภาพผู้เปล่าเปลี่ยวเพื่อนข้างห้องของ เอไลซา รวมไปถึง ริชาร์ด ตัวโกงของเรื่องนี้ ที่แสดงโดย ไมเคิล แชนนอน มาช่วยทำให้ The Shape Of Water มีความกลมกล่อมจนน่าหลงไหล
ส่วนเรื่องเทคนิคที่ใช้นำเสนอของ The Shape Of Water ไม่ว่าจะเป็นเพลง ซาวด์เอฟเฟค หรือภาพ โทนสีต่างๆ ในหนังนั้น มีความสวยงามมากๆ การเนรมิตฉากให้กลายเป็นยุค 70s นั้น ดูแล้วอารมณ์เหมือนเราดูละครบรอดเวย์ทุกอย่างดูคุมโทนไปในทิศทางเดียวกัน ภาพ และเสียงสมูทไม่มีส่วนไหนเลยที่ดูสะดุด คือมันลงตัวมากๆ
สรุป The Shape Of Water เป็นหนังเรท R ที่มีความละมุนน่าหลงไหล แฝงไปด้วยความดาร์ก ที่มีเสน่ห์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นหนังที่ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 13 สาขา ใครที่เบื่อหนังรักแบบเดิมๆ ไม่ควรพลาด คะแนน 9 / 10
BUGABOO MOVIE
