3 นักเตะดาวรุ่ง กุญแจสำคัญสู่ผลงานอันยอดเยี่ยมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด [ฟุตบอลไทย]

สปอร์ตแฟน - หลังจากฟาดฟันกันมากว่า 8 เดือน ก็มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 1 ซึ่งปีนี้ทีมในกลุ่มหัวตาราง ไม่ได้ขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสูสีเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา หลังผ่านไป 30 นัด ก็ปรากฏว่าที่แชมป์อย่าง ทีมปราสาทสายฟ้า "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ที่เตรียมรับแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ของประวัติศาสตร์ของสโมสร นับตั้งแต่ใช้ชื่อ บุรีรัมย์ 

แน่นอนว่าการเป็นแชมป์ครั้งนี้ของทีมเซราะกราว มีจุดที่น่าสนใจคือ การใช้ผู้เล่นระดับเยาวชนขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม ไม่ใช่เพียงแค่ระดับประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงรายการระดับเอเชียอย่าง AFC Champions League อีกด้วย 

คนแรกที่ต้องพูดถึง คือ เจ้าเช็ค "สุภโชค สารชาติ" กองกลางวัย 20 ปี ที่ประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ ถึงกับออกปากชมว่า สไตล์การเล่นของ เจ้าเช็ค นั้น ทำให้นึกถึง อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางแชมป์โลกชาวสเปนเลยทีเดียว 

สุภโชค ได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2015 ก่อนที่จะขึ้นชุดใหญ่อย่างเต็มตัวในปี 2016 เป็นต้นมา ซึ่งฤดูกาลนี้ เจ้าเช็ค ทำไปแล้ว 5 ประตูจากทุกรายการ และเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของบุรีรัมย์ ร่วมกับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ในการเจาะแนวรับคู่แข่งด้วยจุดเด่นที่คล่องแคล่วว่องไว จ่ายบอลสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้ดี สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุก และตัวรุกริมเส้น

โดย เจ้าเช็ค ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในถิ่นเซราะกราว ก็เคยผ่านเวทีฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สีมาแล้ว กับโรงเรียนภัทรบพิตร ในปี 2014 ซึ่งเจ้าตัวก็คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกไปได้ แม้ว่าจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายก็ตาม

คนต่อมาที่ฟอร์มร้อนแรงไม่แพ้กัน "อาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด" กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาจากซุปเปอร์ พาวเวอร์ เมื่อปลายปี 2016

หากจำกันได้ กองหน้าร่างโย่งคนนี้เคยซัดแฮตทริกใส่ออสเตรเลียมาแล้ว ในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อปี 2016

และปีนี้เอง เรียกได้ว่าเป็นปีของเด็กหนุ่มจากปัตตานีอย่างแท้จริง ตามนโยบายของสโมสรที่ต้องการผลักดันดาวรุ่งมากกว่าการทุ่มซื้อตัวผู้เล่น ทำให้ เจ้าอาร์ม กลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริง และปล่อยครั้งที่ลงมาเปลี่ยนเกมในฐานะตัวสำรอง

โดยปีนี้ เจ้าอาร์ม ได้ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปแล้ว 7 ประตู รวมทุกรายการ แถมยังซัดแฮตทริกแรกในฟุตบอลเอฟเอ คัพ ในนัดที่ชนะ ลำปาง เอฟซี ไป 6-0 รวมถึงการทำประตูแรกในลีกสูงสุดให้ตัวเองได้สำเร็จอีกด้วย

นอกจากนี้ ในฟุตบอล AFC Champions League ก็ได้รับความไว้วางใจลงสนามถึง 7 เกม จนสุดท้ายมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดลุยศึกเอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซีย และก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับผลงานส่วนตัวที่ทำ 2 ประตู พร้อมกับฟอร์มที่โดดเด่น จนได้รับคำชมอย่างมากมาย

ซึ่ง เจ้าอาร์ม ก็เป็นอีกคนที่เคยผ่านเวทีฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี กับโรงเรียนปทุมคงคา ในปี 2015 แม้จะยิงได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปได้ เช่นเดียวกับ สุภโชค สารชาติ 

อีกหนึ่งคนที่โดดเด่น และจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ อย่าง เจ้าพี "ศศลักษณ์ ไหประโคน" กองหลัง วัย 22 ปี ที่เล่นได้ทั้งแบ็คซ้ายและแบ็คขวา โดยเด็กหนุ่มชาวบุรีรัมย์จากอำเภอประโคนชัย ได้โลดแล่นมาเล่นในเมืองหลวง กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนที่ยักษ์ใหญ่จากแดนอีสาน จะคว้าตัวกลับมาเล่นให้ทีมบ้านเกิด เมื่อปี 2017

ด้วยสไตล์การเล่นที่วิ่งสู้ฟัด ขยัน กัดไม่ปล่อย เวลาลงเล่นเกมรับ แต่พอเล่นเกมรุกทำได้ดี ทั้งการเปิดบอล และการกล้าเลี้ยงกล้าลุย แถมยังมีสกอร์ให้ทีมไปแล้ว 2 ประตูในฤดูกาลนี้ ด้วยความสามารถที่เกินอายุ ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก และเป็นที่รักของชาวเซราะกราว อย่างรวดเร็ว

ซึ่ง ศศลักษณ์ ก็เคยผ่านเวทีฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี กับโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ที่พาทีมลงเล่นรอบสุดท้าย ในปี 2012 อีกด้วย

ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพ และการขัดเกลาอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การผลักดันดาวรุ่ง กลายเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมปราสาทสายฟ้า ทำผลงานออกมาได้สุดยอดในปีนี้ จนได้ชื่อว่าเป็น ว่าที่แชมป์ของปี 2018