หญิง รฐา กับมุมมองความคิดเชิงบวก ถ้าอะไรที่ไม่ใช่...เราก็เเค่เปลี่ยน : Bugaboo Interview
การก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในสมัยนี้มีความเปิดกว้าง และถือว่าง่ายกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเข้ามาแล้วการรักษาชื่อเสียงให้มีชื่อติดในวงการนานๆ นั้นยากกว่า บางคนเข้ามาแล้วก็จากไป แต่ก็มีดารานักแสดง หรือศิลปินหลายคนที่ยังคงมีชื่อเสียง และยืนอยู่ในเส้นทางนี้ได้เป็นเวลานาน Bugaboo Interview ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับเธอคนนี้ หญิง รฐา นักแสดงสาวที่ทำงานอยู่ในวงกานบันเทิงมาอย่างยาวนาน เธอนั้นผ่านช่วงเวลาชีวิตมาทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะยุคที่รุ่งเรืองที่สุด จนถึงบางช่วงที่ต้องพบเจอกับปัญหาหนักหน่วงที่สุดในชีวิต ซึ่งเราได้ค้นพบว่าพลังความคิดเชิงบวกของ หญิง รฐา นั่นเอง ที่ทำให้เธอสามารถยืนได้อย่างเแข็งเเกร่งมาเป็น หญิง รฐา ที่สง่างามได้จนถึงทุกวันนี้
อะไรคือสิ่งที่ทำให้กลายมาเป็น หญิง รฐา ได้ในทุกๆ วันนี้
หญิง รฐา : คิดว่าน่าจะเป็นความรับผิดชอบค่ะ คิดว่าตั้งแต่ช่วงที่มาเป็นนักแสดง ช่วง 10 ปีหลังมานี้ คือจริงๆ อยู่ในวงการนี้มาเป็น 20 ปีแล้ว แต่ว่าช่วง 10 ปีหลัง จะเป็นมุมมองของการเป็นนักแสดง ซึ่งการเป็นนักแสดงเนี่ย ทำให้เราได้ไปเรียนรู้มุมมองความคิดของตัวละครในหลายๆ แบบ ตัวละครแต่ละตัวก็จะสอนให้เราคิดตาม เราจะได้เห็นว่าตัวละครตัวนี้จุดจบของเขาเป็นยังไงถ้าเราคิดแบบนั้น ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้เราได้เหมือนไปเรียนรู้ชีวิตของคนหลายๆ คนเลย ในหลายๆ ครั้งที่เราจะเลือกรับละคร หรือภาพยนตร์ ก็จะเลือกจากตัวละครตัวนั้น ถ้าเรารับบทนี้แล้วจะให้อะไรกับเรา
ดังนั้นมันก็กลายเป็นว่า พอเรามีความรับผิดชอบในการเลือกงาน พอได้งานมาเราก็ต้องมีความรับผิดชอบในการทำงาน ซึ่งการทำงานไม่ใช่แค่หน้ากล้องเพียงอย่างเดียว ต้องรวมไปถึงหลังกล้องด้วย การตรงต่อเวลา การทำการบ้าน หรือการเคารพผู้กำกับ การมีเพื่อนในวงการที่คอยสนับสนุนคอยสอนกันและกัน รวมไปถึงรุ่นพี่ในวงการ หญิงคิดว่าการเป็นนักแสดงมันคือการเรียนที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครบอกว่าคุณเล่นเก่งแล้ว เล่นเก่งในเรื่องนี้ คุณอาจจะเเสดงง่อยในเรื่องอื่นก็ได้ ถ้าเราไม่ทำการบ้าน ดังนั้นการเป็นนักแสดงของหญิง คือการเปลี่ยนห้องเรียนในทุกๆ วัน มันไม่มีใครได้ A ในทุกๆ ห้องหรอก มันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง หรือว่าคาแรคเตอร์นี้เล่นดีจังเลย แต่อีกคาแรคเตอร์มันอาจจะไม่ใช่ทางที่เราไปได้ถึงจริงๆ ก็ได้ ดังนั้นยอมรับความจริง แล้วก็เข้าใจมัน และรับผิดชอบ รวมไปถึงเราก็ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อเเผ่กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมนุษยสัมพันธ์ หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนความคิดกัน มันก็เลยทำให้มีคนเมตตา แล้วก็ให้งานเราเรื่อยๆ หม่อมน้อย เคยบอกหญิงว่า งานมันจะเลือกเราเอง ถ้างานเราดี ก็จะทำให้คนที่เก่งๆ อยากร่วมงานกับเรา ดังนั้นเมื่อเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ งานที่ดีๆ มันก็จะมาหาเราเอง
วิธีการปรับตัวและมุมมองความคิดต่อคนที่ไม่ชอบเรา
หญิง รฐา : ถ้ามันเป็นในเรื่อง physical เลย มันเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ หญิงว่าเราคงต้องยอมรับความจริง physical มันอาจจะเกิดมาจากเราไปอยู่ในกลุ่มคน คือหญิงมองว่าการที่คนไม่ชอบเรามันมีปัจจัยมาจากหลายอย่างมาก มันเป็นรูปลักษณ์ หรือมันเป็นอินเนอร์ หรืออาจจะเป็นนิสัยของเรา ดังนั้นเนี่ย มันอยู่ที่ว่าเราไปอยู่ตรงไหน หญิงไม่เชื่อว่าในโลกนี้มันไม่มีที่สำหรับเรา มันจะมีที่หนึ่งที่เป็นของเรา หญิงก็เคยไปอยู่ในจุดที่กลุ่มคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าอึดอัดจังเลย มันไม่ใช่ที่ของเราอะไรแบบนี้ ดังนั้นวิธีเดียวก็คือ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่สบายตัวตรงนั้น เราก็แค่ออกมา เราไม่จำเป็นต้องแบกรับกลุ่มคนที่เขาไม่ได้อยู่เพื่อเรา
ดังนั้นถ้าเราต้องไปแบกรับความรู้สึกของคนทั้งโลกมาใส่ที่เราคนเดียว จนรู้สึกว่าฉันไม่เหมาะกับโลกใบนี้เลย มันก็ใจร้ายเกินไปสำหรับตัวเอง ในเมื่อเราเป็นตัวของเราเอง แล้วก็มีคนที่รักเรา อย่างน้อยพ่อแม่เรา เพื่อนสนิทของเราสักคนหนึ่ง มันต้องมีคนที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง บังเอิญถ้าเราเป็นคนที่มีแต่คนติเรา ไปไหนก็ติ มีแต่คนไม่แฮปปี้ที่จะอยู่กับเรา แม้แต่กระทั่งเพื่อนเราเอง หรือคนที่อยู่ข้างกายเรา คนที่เราคิดว่าเขาอยู่โลกเดียวกับเรา แต่เขายังติเรา อันนี้เราต้องกลับมามองตัวเองแล้วว่าเรามีข้อบกพร่องอะไรไหม แล้วเราก็เปิดใจรับสิ่งที่คนพูดถึงเราว่า เฮ้ยแกเราทำแบบนี้ไม่ดีนะ เราทำแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้ คือต้องยอมรับในสิ่งนั้นแล้วปรับปรุงตัวเอง สิ่งนี้มันไม่ใช่การเปลี่ยน เราแค่เปลี่ยนแปลง คนเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิต แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงไปในสิ่งที่ดีขึ้น หญิงคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ
การมองตัวเองกับเรื่องราวที่ผ่านมาในแบบของ หญิง รฐา
หญิง รฐา : หญิงจะพูดกับตัวเอง รวมไปถึงเพื่อนรัก หรือคนรักตลอดว่า ในหนึ่งปีเราจะสังเกตได้เลยนะ ว่าเราเป็นคนยังไงจากคนที่อยู่ใกล้เรา ทุกๆ สิ้นปี เราจะมานั่งมองเพื่อนนั่งมองรูปว่าปีนี้เราอยู่กับคนกลุ่มไหน ปีที่ผ่านมาเราอยู่กับใครเยอะที่สุด แล้วเราจะสามารถดูชีวิตเราได้เอง ดูนิสัยเราได้เองว่าคนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ณ วันนี้คือคนรูปแบบไหน แล้วมันก็จะสะท้อนให้เห็นว่าเราเป็นคนแบบนั้นไง เราถึงดึงคนแบบนี้เข้ามา ถ้าสมมุติว่าปีนี้เรารู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยกับการนินทา เหนื่อยกับการที่ต้องไปนั่งเม้าท์คนโน้นคนนี้ ก็ต้องกลับมาดูรูป ในโทรศัพท์ก็ได้ไหนๆ ก็ถ่ายมาทั้งปีแล้ว ว่าเราเบนเวลาไปกับคนกลุ่มไหน ถ้าเป็นคนที่ทำให้เราเหนื่อยเหลือเกิน ปีหน้าก็เอาใหม่ ก็ลองกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวมากขึ้น เราอาจจะได้เจอคนใหม่ๆ กลุ่มใหม่ๆ ที่เรารู้สึกว่าเราสบายใจที่จะอยู่ก็ได้ หรือว่าวันนี้เรารู้สึกว่าคนที่อยู่รอบข้างเรามีมาตรฐานดีจังเลย มีแต่คนที่รู้สึกว่ามีคุณภาพจังเลย เราก็แค่ขอบคุณตัวเองที่เลือกคนที่จะอยู่ด้วยในกลุ่มที่ดีก็แค่นี้เอง
เชื่อว่าจากบทสัมภาษณ์ของ หญิง รฐา ที่ Bugaboo Interview หยิบยกออกมานำเสนอนี้ ผู้อ่านหลายคนคงจะได้เห็นพลังความคิดมุมบวกของ หญิง รฐา ที่ทำให้เธอนั้นแข็งเเกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในมุมมองของเธออาจจะพูดถึงการปรับตัวในวงการ บันเทิง หากเราลองนำแนวคิดพวกนี้มาลองปรับใช้กับตัวเอง สำหรับใครที่ท้อหมดกำลังใจ หรือรู้สึกเหนื่อย อาจจะได้พบกับทางออกไปสู่หนทางชีวิตที่ดีขึ้นแบบ หญิง รฐา เองก็เป็นได้
สัมภาษณ์ : ชุดา ลิมป์กมลธรรม
ภาพ , เรียบเรียง : เมรินทร์ บุญมาเลิศ