เกาะติดภารกิจสำรวจท้ายน้ำเขาใหญ่ กู้ซากช้างป่า 6 ตัว ตกน้ำตกเหวนรก
ประเด็นเด็ด 7 สี - เจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงพื้นที่ล่องเรือสำรวจจุดท้ายน้ำที่ไหลลงมาจากเขาใหญ่ เพื่อสำรวจพื้นที่ก่อนวางแผนกู้ซากช้างป่า 6 ตัว ที่พลัดตกจากน้ำตกเหวนรก พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งหลังจากลงพื้นที่สำรวจพบอุปสรรคปัญหา ที่อาจทำให้การกู้ซากช้างป่าล่าช้ากว่าที่วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเกาะติดภารกิจนี้ ติดตามจากรายงานคุณไพจิตร ภานนท์
กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสลดใจให้กับ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อเช้าวันที่ 5 ตุลาคม ได้ยินเสียงโขลงช้างร้องดังสนั่น จึงนำกำลังไปสำรวจ บริเวณธารน้ำตกเหวนรก ทำให้พบกับซากช้างป่า 6 ตัว ที่ตกลงไปตายในธารน้ำ โดยมีช้างแม่ลูกคู่หนึ่ง ติดอยู่บนหน้าผา ฝั่งตรงข้ามจุดชุมวิว บริเวณน้ำตกเหวนรก ช้างทั้ง 2 ตัวพยายามเดิมฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เพื่อข้ามมายังอีกฝั่ง ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ยืนลุ้นระทึกให้ช้างทั้ง 2 ตัวกลับขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
ช้างคู่แม่ลูก เดินลัดเลาะข้ามธารน้ำตกเหวนรกมาด้วยความทุลักทุเล จนท้ายที่สุดก็สามารถมาข้ามถึงอีกฝั่งได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลให้อาหาร ก่อนทั้ง 2 ตัวจะกลับเข้าป่าไปในวันต่อมา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังคงต้องเร่งวางแผนเพื่อกู้ซากช้างป่าทั้ง 6 ตัวที่ตกลงไปตาย
วันนี้ (7 ต.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำรวจเส้นทาง จากเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก โดยล่องเรือย้อนขึ้นไปตามเส้นทางน้ำที่ไหลลงมาจากเขาใหญ่ จุดที่ซากช้างป่าจะไหลลงมา เราต้องนั่งเรือเข้าไปเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ก่อนจะลงเดินเท้าต่อเข้าไปจุดที่เป็นท้ายน้ำของเขาใหญ่ เนื่องจากจุดดังกล่าวมีกระแสน้ำแรง เรือไม่สามารถไปถึงได้
จากการสำรวจพื้นที่ท้ายน้ำพบว่า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถนำตาข่ายมาขึงเอาไว้เพื่อดักซากช้างป่าที่จะไหลลงมาได้ ก่อนจะนำขึ้นมาย่อยชิ้นส่วนและฝังกลบ แต่อุปสรรคการกู้ซากช้างป่าของเจ้าหน้าที่ คือ เส้นทางที่ลัดเลาะ โขดหิน และกระแสน้ำ เนื่องจากขนาดตัวและน้ำหนักของช้างทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย กว่าจะไหลลงมาถึงท้ายน้ำต้องใช้เวลาหลายวัน ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ซึ่งหากซากช้างป่าไม่สามารถไหลลงมาได้เอง ก็จำเป็นต้องส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเขาใหญ่ เข้าไปปฏิบัติภารกิจแยกชิ้นส่วนและฝังกลบ ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่เป็นหน้าผา ทำให้มีความเสี่ยง
อีกปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยซากช้างป่าที่ติดโขดหิน ไว้หลายวันจนเน่าเปื่อย จะมีเชื้อโรคหรือส่งผลกระทบกับน้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชลหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า เนื่องจากช้างป่าทั้ง 6 ตัว ไม่ได้ตายจากการเจ็บป่วยหรือติดเชื้อ แต่ตายเพราะอุบัติเหตุ ปัญหานี้จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องตรวจสอบคุณภาพน้ำลงพื้นที่เก็บข้อมูลเอาไว้ กรณีหากส่งผลกระทบ
จากเดิมเจ้าหน้าที่คาดว่าภายใน 4-5 วัน จะสามารถกู้ซากช้างป่าทั้ง 6 ตัวได้สำเร็จ แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมทำให้อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น โดยวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปวางตาข่ายดักซากช้างป่าเอาไว้ ก่อนจะประเมินอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรให้ซากช้างป่าไหลลงมาโดยเร็ว เพื่อกู้ซากช้างป่าทั้ง 6 ตัว
