ผบช.ภ.2 เผย ตร.ศาลส่งปืนให้เสมียนทนาย เป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก จึงลังเล

เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เผยตำรวจประจำศาลจังหวัดจันทบุรี เจ้าของปืนที่เสมียนทนายใช้ยิงอดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ เสียชีวิตในห้องพิจารณาคดี เป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก ขณะเกิดเหตุจึงเกิดอาการลังเล ย้ำพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ความคืบหน้าคดี พลตำรวจตรี ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ใช้ปืนยิงคู่ความในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ และนายวิจัย สุขรมย์ ทนายโจทก์ เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีภรรยานายบัญชา และทนายความ ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ส่วนพลตำรวจตรีธารินทร์ ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายใช้ปืนประจำกายของตำรวจศาล ยิงจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ล่าสุด พลตำรวจโท มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดี โดยเฉพาะประเด็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าวันเกิดเหตุ ร้อยตำรวจเอก ขจร บรรจง รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดจันทบุรี ส่งปืนให้นายธนากร หรือถูกนายธนากรแย่งปืนไปยิง พลตำรวจตรีธารินทร์

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ร้อยตำรวจเอกขจรมีโรคประจำตัว คือ โรคเส้นเลือดในสมองแตก เคยรักษาพยาบาลมาก่อน จึงอาจจะเกิดความลังเลในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะการเข้าระงับเหตุ ต้องตัดสินใจในเสี้ยววินาที

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 บอกด้วยว่า หลังจากนายธนากรยิงพลตำรวจตรีธารินทร์แล้ว ได้ส่งปืนคืนให้ร้อยตำรวจเอกขจร ส่วนกรณีที่พลตำรวจตรีธารินทร์ถูกยิงแล้วยังถูกใส่กุญแจมือนั้น สาเหตุเป็นเพราะหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบพบว่าพลตำรวจตรีธารินทร์ยังมีชีวิตอยู่ และมีปืนอยู่ข้างตัว ประกอบกับมีคนบอกว่า เป็นคนใช้ปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน ด้วยสัญชาตญาณของตำรวจจึงใส่กุญแจมือไว้ก่อน เพราะหากพลาดอาจใช้ปืนทำร้ายผู้อื่นอีก

นอกจากนี้ ยังมีแพทย์ พยาบาล ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 บอกว่า ประเด็นนี้เห็นด้วยว่าต้องใส่กุญแจมือ เพื่อป้องกันเหตุร้ายไว้ก่อน ตำรวจทำถูกต้องแล้ว